-มีการศึกษา ถึงกลไกทางสมอง และ พฤติกรรม ของคน ผ่านการทดลองในหนู ซึ่ง มีลักษณะ คล้ายคนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การให้รางวัลจูงใจ ให้ทำสิ่งต่างๆ … พบว่า ความเชื่อที่ว่าให้รางวัล สม่ำเสมอ ให้เรื่อยๆ จะได้ผลดี ….ไม่จริง… สู้การให้รางวัลแบบเป็นครั้งเป็นคราว ไม่แน่ไม่นอน จะได้ผลดีกว่า ในการกระตุ้นให้คนพยายามทำงาน
-คำจำกัดความ รางวัล คือ สิ่งที่ให้หลังจากการทำกิจกรรมใดๆ แล้วจูงใจให้ทำกิจกรรมนั้นเพิ่มขึ้น … ดังนั้น รางวัลที่ดี จะกระตุ้นให้มีการกระทำกิจกรรมนั้น มากๆ บ่อยๆ หรือ พยายามทำกิจกรรมนั้นเพิ่มขึ้น
-ทำการศึกษาในหนู 7-8 สัปดาห์ (เทียบกับคนหนุ่มสาวถึงวัยทำงาน) โดยจัดให้อยู่ในกล่องทดลอง ที่มี แป้นกดเพื่อรับน้ำ หรือ น้ำหวาน และในกล่องทดลอง จะมี แสงไฟ และ เสียงดัง เพื่อบอกเวลาที่ แป้นกดจะทำงานได้ผล หรือ on (นอกเวลาดังกล่าว ถึงจะ กดแป้น ก็ไม่มี น้ำหรือน้ำหวานออกมา หรือ off)… โดยแบ่งหนูทดลองเป็น 6 กลุ่ม 3 กลุ่มแรก จะไม่สัญญาณไฟ หรือ เสียงดังเพื่อเตือนว่าเวลาใดจะมีการอนุญาตให้แป้นกดทำงาน ขณะที่ อีก 3 กลุ่ม จะมีสัญญาณ ไฟ และ มีเสียงเตือน นาน 6 วินาที เมื่อถึงช่วงเวลาที่แป้นกดพร้อมทำงาน … ใช้เวลาฝึกฝน ให้หนู เข้าใจกติกา นาน 9 วัน เพื่อให้คุ้นเคยกับ ระบบกดแป้น เพื่อให้มีน้ำ และ น้ำหวาน รวมทั้ง แสงไฟ และ เสียงเตือน … เวลาในการทดลอง นาน 1 ชั่วโมง มีเวลาที่จะได้รางวัล เพียง 30 นาที
-หลังจากการเตรียมการ และ เริ่มทำการศึกษา นาน 14 วัน โดยแต่ละฟากของหนูทดลอง(ฟากที่มีสัญญาณเตือน และ ไม่มี) จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก ให้น้ำ หรือ น้ำหวานได้ตลอดเวลา(ไม่มีช่วงพัก) กลุ่มที่ 2 ให้มีเวลากดน้ำ (on) และ พัก (off) สลับกันทุก 5 นาทื ส่วนกลุ่มที่3 เวลาให้กดน้ำ(on) เป็นแบบสุ่ม นาน 1, 5, 9 นาที และเวลาพัก(off) ก็สุ่ม 1,5,9 นาที ปริมาณ น้ำหรือน้ำหวาน ก็สุ่ม ครั้งละ 0.1 – 0.3 ml. โดย 3 วันแรก จะเป็นการ กดแล้วได้น้ำเปล่าอย่างเดียว และ หลังจากนั้น หนูจะถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่มย่อย ในแต่ละกลุ่มใหญ่ โดยครึ่งหนึ่ง จะยังคงได้แต่น้ำเปล่าอย่างเดียว ขณะที่อีกครึ่งหนึ่ง จะเป็นการกดแล้วได้น้ำหวาน… การวัดผล ว่า การให้รางวัลแบบไหนจะได้ผลดีกว่ากัน ดูที่จำนวนครั้ง ของการกดแป้น เพื่อหวังว่าจะได้น้ำออกมา
-ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มที่ ไม่มีสัญญาณเตือน ทั้งไฟและเสียงเตือนช่วงเวลา ของการได้น้ำ หรือ น้ำหวาน จะมีอัตราการกดแป้น ต่ำ และ คงที่ (คล้ายๆ กับ ไม่มีตัวเตือนว่า ช่วงไหนเป็นช่วงโปรโมชั่น) … ขณะที่กลุ่มที่มี สัญญาณเตือน จะมีอัตราการกดแป้นที่สูงกว่า กลุ่มที่ไม่มีสัญญาณเตือน อย่างชัดเจน และ กลุ่มที่ได้น้ำหวาน จะมีการกดแป้น ถี่ขึ้น บ่อยขึ้น จำนวนครั้งมากขึ้น เรื่อยๆ มากกว่า กลุ่มที่ได้น้ำเปล่า ซึ่ง อัตราการกดแป้น จะสูงคงที่ … และ ในกลุ่มที่ได้น้ำหวานเอง กลุ่มที่ ได้น้ำหวานตลอดเวลา หรือ ได้น้ำหวาน ตรงตามช่วงเวลาที่สม่ำเสมอ จะมีอัตราการกดแป้นน้อยกว่า กลุ่มที่ มีช่วงเวลา กดแป้นได้ (on) ที่ไม่แน่นอน (ช่วงโปรโมชั่น ไม่แน่นอน) … ในการศึกษานี้ การได้ของรางวัล แบบสุ่ม ต้องลุ้น ว่า เมื่อไหร่จะได้ของรางวัล และ ได้ของรางวัล อาจจะได้มาก หรือ น้อย ก็ต้องรอลุ้น จะเป็นวิธีกระตุ้น หรือ จูงใจ ให้มีความพยายาม กดแป้น มากที่สุด บ่อยที่สุด
-ในการศึกษานี้ แสดงให้เห็นว่า การให้รางวัล จะต้องมีสัญญาณเตือนให้รู้ว่า นี่คือการให้รางวัล หรือช่วงเวลาของการให้รางวัล หากไม่มีการเตือนดังกล่าว จะมีเกิดการกระตุ้น ให้มีความพยายามในการทำงาน … ถัดมา รางวัลที่ดี น่าสนใจ (น้ำหวาน) จะกระตุ้น ความพยายามได้มากกว่า … และ สุดท้าย การให้รางวัล ที่ให้ประจำ สม่ำเสมอ ถึงแม้ว่า รางวัลจะน่าสนใจ ก็มีแรงกระตุ้น ไม่มากเท่ากับ การให้รางวัล แบบเป็นครั้งคราว โอกาส ไม่แน่ไม่นอน และ ปริมาณของรางวัลก็อาจจะมีการแปรผันด้วย ซึ่ง การให้รางวัล แบบที่ต้องลุ้น จะได้ผลมากที่สุดในการกระตุ้น ความพยายามทำงานครับ