-เรามักจะรู้สึกว่า คนอ้วน น่าจะมีเซลล์ไขมันมากกว่าคนปกติ และ เวลาลดความอ้วน เซลล์ไขมันน่าจะลดลง… มาดูข้อเท็จจริงกันครับ
-เซลล์ไขมันในร่างกายของคนเรา มีหน้าที่เก็บไขมัน ซึ่งแปลงมาจากแป้งและน้ำตาล ที่เราเหลือใช้ (กินมากกว่าใช้) มาเก็บในรูป ไตรกลีเซอไรด์ เป็นส่วนสะสมอยู่ในเซลล์ไขมัน หากไขมัน ไม่ได้ถูกนำออกไปใช้เป็นพลังงาน เซลล์ไขมันจะมีขนาดโตขึ้นเรื่อยๆ และ เมื่อลดความอ้วน เอาไขมันไปใช้ เซลล์จะตัวเล็กลง แต่ จำนวนเซลล์ไขมันในร่างกายเท่าเดิม ไม่ได้น้อยลง … นี่คือ ต้นเหตุของ Yoyo effect ที่เมื่อลดความอ้วนแล้ว เผลอแพลบเดียว ก็กลับมาอ้วนใหม่ เพราะ เรายังมีปริมาณ เซลล์ไขมันในร่างกายเท่าเดิม
-เซลล์ไขมันมีโอกาส ลดลง หรือ ตายไปไหม … มีครับ ลักษณะการตายของเซลล์ไขมัน จะเป็นเหมือนมีการอักเสบเกิดขึ้น และ เซลล์ตายไป แต่ กลไกตามธรรมชาติ จะมีการกระตุ้น ให้มีการสร้างเซลล์ไขมันขึ้นใหม่ ในอัตราเท่าเดิม…. ในการศึกษา ตรวจวัดค่า Carbon ซึ่ง เป็นการวัดอายุของเซลล์ พบว่า เซลล์ไขมันเกิดใหม่ จำนวนเท่ากับ เซลล์ที่ตายไป จึงมีจำนวนเซลล์ไขมันในร่างกายเท่าเดิม ค่าเฉลี่ยของการ ตายไปของเซลล์ไขมัน อยู่ที่ 50% ทุกๆ 8 ปี
-ดังนั้น เราจะเห็นว่า คนส่วนใหญ่ พอ เริ่มอ้วน แสดงว่า มีการโตขึ้นของเซลล์ไขมัน โดยที่จำนวนเซลล์เท่าเดิม (ไม่เพิ่ม) แต่พบว่า หากมีการอ้วนต่อเนื่องกันมากๆ จน ไขมันไม่สามารถเก็บในเเซลล์ไขมันที่มีอยู่แล้ว จะมีการกระตุ้นให้มีเซลล์ไขมันเกิดใหม่(เพิ่มที่เก็บ) เพิ่มขึ้นเรื่อยๆไปอีก ซึ่งมักจะเกิดในช่องท้อง (ที่เป็นเซลล์ไขมันชนิดไม่ดี)… และ เช่นเดิม เมื่อผอมลง เซลล์จะเล็กลงแต่ ไม่หายไป จำนวนเซลล์จะยังคงเยอะเหมือนเดิม ดังนั้น จึงเข้าลักษณะ อ้วนแล้ว อ้วนเลย ไม่สามารถ ลดลงได้(เซลล์ไขมัน เพิ่มแล้ว เพิ่มเลย ไม่ลดลง) … ภาวะนี้ น่ากลัวอย่างยิ่ง หากเกิดขึ้นในเด็ก เพราะ เด็กที่มีภาวะอ้วน จนกระทั่งมีเซลล์ไขมันจำนวนมากกว่าคนปกติ จะต้องอยู่กับ สภาพแบบนี้ ไปอีกนาน ความเสี่ยงของโรคอื่นๆก็จะเพิ่มขึ้น ไปอีกนานเช่นกัน
-อย่าปล่อยให้เซลล์ไขมันแน่นจนไม่มีที่เก็บ แล้ว ต้องเพิ่มจำนวนเซลล์ไขมันนะครับ เพราะว่า อ้วนแล้ว อ้วนเลย ครับ