แปลงหน่วย ผลตรวจเลือด ยังไง

-ปัจจุบัน มี smart health watch ใช้กันแพร่หลาย บางเครื่องที่สามารถตรวจค่าน้ำตาลในเลือด ค่าไขมันในเลือด ได้แบบคร่าวๆ โดยใช้นาฬิกาข้อมือวัดค่า … แต่บ่อยครั้ง การรายงานค่า อาจจะไม่เหมือนแบบที่เราคุ้นเคยแบบที่เป็น mg/dL ปกติ เราบอกว่าน้ำตาลในเลือด ไม่ควรเกิน 100 เพราะแสดงสัญญาณว่า อาจจะเริ่มเป็นเบาหวาน ซึ่ง เราใช้เป็น เลข 100 จนไม่ได้สังเกต หน่วยวัดของค่าน้ำตาลในเลือดว่าเป็น mg/dL

-ใน app หลายตัว มีการวัดค่าตรวจสารต่างๆ ในเลือด เป็น mmol/L หรือ แม้แต่ เวลาไปต่างประเทศ เช่น ประเทศในยุโรป จะใช้การวัดค่าที่มีหน่วยเป็น mmol/L ด้วยเหมือนกัน เราจึงไม่คุ้นเคยในการแปลผลค่าที่วัดได้ ….มาดูกันครับ ว่า เราจะแปลงเป็นค่า ที่เราคุ้นเคยได้อย่างไร

–การวัดค่า mmol/L เป็นการวัดว่า มี โมเลกุลดังกล่าว จำนวนเท่าไหร่ ในปริมาตร ที่กำหนด ซึ่ง การจะมี โมเลกุลจำนวนเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับ ขนาดของ สารดังกล่าว ว่าตัวโต หรือตัวเล็ก จะแย่งกันอยู่ในสารละลายที่เป็นเลือด ได้มากน้อยแค่ไหน … ขณะที่ การวัดเป็น mg/dL เป็นการชั่งน้ำหนักของสารที่มีอยู่ในเลือด ว่าหนักเท่าไหร่ น้ำหนักของสาร ก็ขึ้นอยู่กับ ส่วนประกอบของ โมเลกุล ว่ามี คาร์บอน ไฮโดรเจน ออกซิเจน ไนโตรเจน เป็นส่วนประกอบอยู่อย่างละกี่ตัว ดังนั้น ใน 1 โมเลกุลของสาร จะมีน้ำหนักที่คงที่ เมื่อในสารละลาย(เลือด) มีจำนวนโมเลกุลของสารที่จะวัดเพิ่มขึ้น ก็จะมีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นด้วย การวัดค่าทั้ง 2 แบบ จึงใช้งานได้เหมือนกัน เพียงแต่เวลาที่เราจะอ่านค่า เราต้อง เอาค่าน้ำหนัก 1 โมเลกุลของ สารนั้น ไป คูณ กับ ค่า mmol/L จะได้ค่าออกมากเป็น mg/dL ครับ ซึ่ง ค่าคงที่ดังกล่าว เป็นดังข้อมูลข้างล่างนี้ครับ

• Blood glucose  1 mmol/L = 18.018 mg/dL
• Cholesterol 1 mmol/L = 38.65 mg/dL
• Triglyceride 1 mmol/L = 857 mg/dL
• LDL 1 mmol/L = 67mg/dL
• HDL 1 mmol/L = 67mg/dL

-บางคนมีความเข้าใจผิด ใช้ค่าที่เคยได้ยินมา เช่น ค่าน้ำตาล คูณด้วย 18 ก็เอาตัวเลข 18 ไปใช้กับค่าการตรวจเลือดอื่นๆ ทั้ง ค่า ไขมัน LDL HDL Cholesterol ซึ่ง ผิดนะครับ เพราะ จะทำให้ได้ค่าที่คลาดเคลื่อนจากความจริงมากมาก อย่างตัวคูณของ cholesterol LDL HDL จะเกือบเท่าตัวของ ค่าน้ำตาลในเลือด ขณะที่ค่า Triglyceride เกือบ 4.5 เท่าของค่าน้ำตาลในเลือด … ดังนั้น เวลาแปลงค่า ต้องใช้ตัวคูณ จำเพาะของสารนั้นนะครับ