-สาเหตุของ ไอเรื้อรัง ไอแห้งๆ มีหลากหลายมาก ได้แก่ โรคหอบหืด ซึ่ง เกิดจาก ภูมิแพ้ โรคถุงลมโป่งพอง ปอดอักเสบ หรือหลอดลมอักเสบ ซึ่งก็มักจะเกิดจากสูบบุหรี่ และ นอกจากนี้ ยังมีสาเหตุส่วนน้อยมาก ที่เกิดจาก สิ่งแปลกปลอมเข้าไปในหลอดลม (สำลัก แต่ไม่ออก เลยหลุดเข้าไปด้านใน) … แต่ก็มีหลายคน ที่ มีอาการไอเรื้อรัง ซึ่ง ตรวจหาสาเหตุต่างๆ ข้างต้น แล้ว ก็ไม่พบสาเหตุ
–การตึงตัว หรือ เกร็งตัว ของกล้ามเนื้อหลัง คอบ่าไหล่ และ สีข้าง อาจจะเป็นสาเหตุของการไอเรื้อรัง สังเกต ได้จาก การตรวจ ด้วยการดู และ คลำ ซึ่ง จะพบว่า ความตึงของกล้ามเนื้อ ที่ทำให้เวลาสูดหายใจเข้าลึกๆ การเคลื่อนหรือ ขยับตัวของทรวงอก ช่วงปอด 2 ข้างไม่เท่ากัน ข้างที่ตึงมาก ขยายตัว หรือ ขยับตัวได้น้อยกว่าอีกข้างหนึ่ง ชัดเจน … ในกรณีนี้ หากทำการนวด ผ่อนคลาย ยืดเหยียด หรือ ฝังเข็ม ให้กล้ามเนื้อคลายตัว การสูดหายใจได้ดีขึ้น ทั้ง 2 ข้าง อาการไอเรื้อรัง หรือ แม้แต่ ไอเฉียบพลัน จะลดลง หรือ หายได้เลยครับ
-อธิบาย กลไก การเกิดสภาวะไอเรื้อรังที่อยู่ในกลุ่มสาเหตุนี้ ดังนี้ครับ เมื่อกล้ามเนื้อสะบักหลังตึง ทำให้เกร็งและ หดตัวไม่ยอมให้ยืดเหยียดได้ตามปกติ เวลา ที่ร่างกายเราหายใจ นอกจากใช้กระบังลมแล้ว ยังมีการขยายตัวของกระดูกซี่โครงทั้ง 2 ข้าง ซึ่ง การขยายตัวของกระดูกซี่โครง และ ช่องปอด จะมีการขยายตัวของกล้ามเนื้อที่หุ้มอยู่รอบๆ ผนังทรวงอก คู่กันไป โดยที่ ด้านหลังของลำตัว จะมีกระดูกสะบัก ซึ่ง เป็น ตัวประสานอยู่ตรงกลาง ของการเคลื่อนที่แขน ลำคอ เอว เมื่อกล้ามเนื้อสะบักหลังตึง กระดูกสะบักเคลื่อนที่ได้น้อย การเคลื่อนที่ของ แขน ลำคอ และ เอว ก็ยาก และ ไม่ค่อยเคลื่อนไหว ปอดก็ขยายตัวได้น้อยตามไปด้วย ลักษณะเหมือนหายใจไม่อิ่ม … เมื่อปอดขยายตัวได้น้อยกว่า อีกข้างหนึ่ง อากาศในปอดด้านนั้นจะค่อยๆ ลดลง (ปอดแฟบลง) เมื่อปอดแฟบลง มุมของ หลอดลมใหญ่ ก็จะเอียงตามไป เพราะ ปอดด้านที่ขยายตัวมากกว่า จะดันตัวเองไปด้านตรงข้าม ทำให้อากาศไหลเข้าไปได้มากกว่า (การไหลของอากาศตรงกว่าเดิม) แต่ ทั้งนี้ ด้วยมุมของหลอดลมใหญ่ผิดไปจากเดิม จึงเกิดลักษณะของอากาศที่หมุนวน (turbulent flow) และ อากาศที่หมุนวน จะระคาย เยื่อบุหลอดลมใหญ่ บริเวณนั้น ทำให้รู้สึกอยากไอ และ ถ้ามีฝุ่นหรือละออง ก็จะระคายมากขึ้นไปอีก เพราะ แทนที่ฝุ่นจะถูกดันออกไปข้างนอก กลับหมุนวนอยู่ในบริเวณนั้นนานขึ้นครับ
-ลักษณะที่สังเกต เห็นดังนี้ ได้มีการตรวจ และ รักษา ผู้ที่มีอาการไอ และ ได้ผล จริง แต่ทั้งนี้ อาการไอ มีได้หลายสาเหตุ ควรได้รับการตรวจวินิจฉัย ให้แน่ใจว่า ไม่ได้เกิดจาก เหตุอื่น ที่รักษาได้ ไม่ว่าจะเป็นหลอดลมอักเสบ หรือ วัณโรค หรือ หอบหืด ควรได้รับการรักษาที่ถูกต้องตรงจุดครับ