-มีคนถามหมอว่า ฝุ่น PM 2.5 ทำให้เป็นมะเร็งปอด ทำให้เป็นมะเร็งได้จริงๆหรือ … ในความรู้สึกของคนทั่วไป คิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้
-ขออนุญาต นำความรู้ทางการแพทย์ ประกอบกับเรื่องที่เราคุ้นเคยในชีวิตประจำวันมาเล่าให้เราฟังครับ
-เชื่อว่า ทุกคนคงจะได้ใช้โทรศัพท์มือถือ และ ใช้งานจนรู้สึกเป็นเรื่องธรรมดาๆ ที่ไม่มีอะไรซับซ้อน เหมือนกับ ที่เราใช้ร่างกายของเราในการกิน เดิน หายใจ ขับถ่าย ฯลฯ ระบบทุกอย่าง เหมือนถูกทำมาอย่างดี ให้สามารถทำงานได้เอง โดยที่เราไม่ต้องไปยุ่ง หรือ ไปสนใจมัน …
-ซื้อ มือถือมา โชคไม่ดี ก็จะเจอเครื่องเสีย ที่บอกว่า แผงวงจรเสียต้องเปลี่ยนใหม่ …..ภายในโทรศัพท์มือถือของเรามีองค์ประกอบ 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม โปรแกรม และ กลุ่มเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ในส่วนที่เป็นเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ คือ ส่วนที่เราบอกว่า มือถือ รุ่นนั้นรุ่นนี้ ประสิทธิภาพแค่ไหน ความเร็วแค่ไหน ความจุ แค่ไหน… ประมาณนั้น … หากมองให้ลึกไปถึงการทำงานหรือ การพัฒนาการทำงาน ของ โทรศัพท์มือถือ ซึ่งมีวิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง ภายในโทรศัพท์ จะเป็นการทำงานของ วงจรไฟฟ้า ที่ถูกเขียน และสร้างไว้ก่อนล่วงหน้า เป็นวงจรขนาดเล็กๆ จำนวนมากมาย หลายล้านวงจร ที่ถูกบีบอัดเข้ามาจนมีขนาดเล็กมาก และ เรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆ อยู่ใน chip ส่วนที่เป็น CPU และ ส่วนอื่นๆ … Chip ถือส่วนที่เราเรียกทางกายภาพของ CPU เป็นกล่องเล็กๆ ขนาดไม่ถึง 1 ซม แต่ด้านใน มีวงจรไฟฟ้า เรียงกันเป็นชั้นๆ มากมาย นับล้านวงจร… เวลาซื้อโทรศัพท์มือถือ หรือ เครื่องใช้ไฟฟ้า บางอันมา พอทำงานไปสักพัก ก็พบว่ามันเอ๋อ ทำงานไม่ได้ หรือทำงานผิดพลาด พอส่งไปตรวจซ่อม เขาก็จะบอกว่า CPU หรือ Chip เสีย ต้องเปลี่ยน ขนาดของใหม่ๆ ที่เพิ่งซื้อมา บางทีก็เสียได้ และ ยิ่งของที่ซื้อราคาถูก ก็ยิ่งมีความเสี่ยงตรงนี้มาก เพราะ ว่า Chip แต่ละตัว ก่อนที่จะนำมาประกอบ จะต้อง ถูกทดสอบ และ ค่าทดสอบมันมีต้นทุน และ แพง โทรศัพท์ ราคาถูก เลยไม่มีกระบวนการตรวจสอบ หรือ ทดสอบ ให้คนซื้อไปเสี่ยงดวงกันเอาเอง
-ขอเข้าเรื่องครับ การที่ Chip หรือ CPU ทำงานไม่ได้คุณภาพ เพราะมี การลัดวงจรไฟฟ้า ที่อยู่ใน Chip เกิดขึ้น เนื่องจาก วงจรมีขนาดเล็กมาก และ อยู่ชิดกันมาก บางจุดอยู่ชิดกันระดับ nanometer หรือ 1 ใน 1000 ของ มิลลิเมตร หากมีฝุ่นเม็ดเล็กๆ เข้าไปแตะ ก็ทำให้กระแสไฟฟ้าลัดวงจรได้แล้ว ดังนั้น ในโรงงานผลิต Chip จึงเป็นโรงงานที่ถูกสร้างมาอย่างดี ไม่ให้มีฝุ่น เล็ดลอดเข้าไปได้แม้แต่น้อย ทั้ง มีประตูกั้นเป็นชั้นๆ มีเครื่อง กรอง เครื่อง ฟอกอากาศ แม้แต่คนทำงาน ที่จะเข้าไป ก็ต้องผ่านการทำความสะอาดอย่างดี และ สวมชุดป้องกันฝุ่น คล้ายๆชุดอวกาศ … เพราะ แม้แต่ ฝุ่นเพียงเล็กๆ เม็ดเดียว ก็ทำให้ Chip พัง และ ทำงานผิดปกติได้ครับ
-ในคน ก็เหมือนกันครับ Chip ที่ว่า ก็เหมือน นิวเคลียสใน เซลล์ ซึ่ง มี DNA เป็นวงจร ในการควบคุมการทำงานของเซลล์เป็นล้านๆ gene โดยที่ นิวเคลียส ของเซลล์ จะถูกปกป้องเป็นอย่างดี ไม่ให้ได้รับการรบกวนจากภายนอก อยู่ในเซลล์ อยู่ในเลือด อยู่ในอวัยวะ และ เนื้อเยื่อ … เซลล์ต่างๆของร่างกาย เหล่านี้ เป็นเป็นตัวควบคุม ส่วนที่จะซ่อมสร้างเซลล์ใหม่มาทดแทน เซลล์ที่สึกหรอที่ถูกใช้งาน และ หลุดลอกออกไป (คล้ายๆ ขี้ไคลที่ลออกออกจากเซลล์ผิวหนังที่เสื่อมหรือตายแล้ว) … จะเห็นว่า เซลล์ ที่ทำหน้าที่สร้าง เซลล์ใหม่ จะถูกเก็บไว้อย่างดี ไม่ให้ สัมผัสกับ สิ่งแปลกปลอมภายนอก … ร่างกายเรามีระบบป้องกันสิ่งแปลกปลอมมากมาย ตั้งแต่ผิวหนัง เยื่อบุทางเดินอาหาร เยื่อบุทางเดินหายใจ เยื่อบุทางเดินปัสสาวะ ซึ่ง ปราการเหล่านี้ จะคอยกั้นสิ่งแปลกปลอม ไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย
-แต่ว่า ฝุ่น PM 2.5 มีขนาดเล็กมาก และ แทรกผ่าน ปราการ เหล่านี้เข้าไปได้ และ สามารถเข้าไปถึง โรงงานผลิต Chip ของเราได้ สามารถเข้าไปถึง นิวเคลียสของเซลล์ที่คอยสร้างเซลล์ใหม่มาทดแทนเซลล์ที่สูญเสียจากการใช้งาน ได้ …. ฝุ่น PM 2.5 นี้ ถ้าหลุดเข้าไปถึง นิวเคลียส ในระหว่างการสร้างเซลล์ ก็ทำให้ gene หรือ DNA ใน นิวเคลียส ผิดรูปได้ เหมือน ฝุ่น ที่ทำให้ วงจร ใน Chip ลัดวงจร การทำงานของเซลล์ ก็ผิดปกติ เหมือน การทำงานของโทรศัพท์มือถือผิดปกติ
-กรณีที่เจอฝุ่นน้อยๆ เซลล์ที่ผิดปกติ ก็ตายไป ร่างกายก็ใช้เซลล์อื่นๆ ได้ เหมือน กรณีมีฝุ่นหลุดเข้าไป ถูก Chip มือถือ บางเครื่อง เครื่องนั้น ก็เสียไป เปลี่ยนเครื่องใหม่ … แต่ลองนึกสภาพดูว่า ถ้า โรงงาน ผลิต Chip โดนพายุฝุ่น เข้าไป และ Chip เสียหายทั้ง lot ไม่มีมือถือเครื่องไหนใน lot นั้น ใช้ได้เลย จะเสียหายขนาดไหน … ในร่างกายของคนเราก็เหมือนกันครับ หาก ฝุ่น PM 2.5 เข้าไป เล็กน้อย ร่างกาย ก็อาจจะกำจัดได้ …แต่ถ้าฝุ่น PM 2.5 เข้าไปมากๆ เซลล์ที่ผิดปกติ ก็อาจจะมากกว่า เซลล์ปกติ พอเซลล์กลายมะเร็ง แค่ไม่กี่เซลล์ ก็จะสามารถแบ่งตัว เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมากมายจนร่างกายเราไม่สามารถกำจัดได้ และ เสียชีวิตในที่สุด
-ฝุ่น PM 2.5 น่ากลัวไหมครับ