กินข้าวนอกบ้าน

-ชีวิตคนกรุง มักจะเร่งรีบ และ บ่อยครั้ง ที่กินข้าวนอกบ้าน หรือ ซื้อ อาหารถุงกลับบ้าน… เมื่อวานนี้ หลังกินอาหาร รู้สึกแปลกๆ เช้านี้เหมือนตัวรุมๆ จะเป็นไข้ แต่ก็ไม่ถึงกับ มีมวนท้อง อาเจียน หรือท้องเสีย แบบอาหารเป็นพิษ

-เคยเขียนเล่าเรื่อง อาหารเป็นพิษ ว่า เกิดจาก เชื้อโรคที่เติบโตในอาหาร และ เกิดการสร้างสารพิษทิ้งไว้ ในอาหาร ถึงแม้เราจะนำอาหารมาอุ่นใหม่ให้สุก เชื้อโรคตาย แต่สารพิษยังอยู่ … จะทำให้เกิดอาการของอาหารเป็นพิษได้ คือ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ซึ่ง มักจะเกิดภายใน 6 ชั่วโมงหลังกินอาหารที่มีสารพิษจากเชื้อโรค ซึ่งกลุ่มนี้ หากกินน้ำเกลือแร่ และ สารดูดซับสารพิษ กลุ่มผงถ่าน อาการจะดีขึ้น และ เมื่อสารพิษ ถูกขับถ่ายออกจากร่างกาย อาการก็จะหายเป็นปกติ

-แต่เมื่อวาน อาการไม่เหมือน อาหารเป็นพิษ เริ่มมีอาการตั้งแต่หลังกินอาหาร ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แน่นๆ ป่วนท้อง ใจหวิวเล็กน้อย และ เหมือนไม่ค่อยมีแรง หลังจากนอนไปสักตื่น ก็ยังไม่หาย ตัวรุมๆ เหมือนมีไข้ … จนกระทั่ง สายๆ ดื่มน้ำมากๆ ขับถ่าย และ กินยาลดไข้ อาการจึงดีขึ้น .. ทำให้มานึกทบทวนว่า เกิดจากอะไร เพราะ อาหารที่กินจากร้านเมื่อวาน ก็ดูปรุงสุข และ สะอาดดี เป็นผัดผัก 2 จาน และ แกงส้มชะอม

-เมื่อมาทบทวนอาการทั้งหมด ดูจะเข้าได้กับ การได้รับสารพิษ กลุ่มยาฆ่าแมลง หรือ Cholinesterase Inhibitors ซึ่งเป็น กลุ่มที่ไปยับยั้งการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติ … นึกถึง สมัยเรียนแพทย์ ที่มีคนกินยาฆ่าแมลงเพื่อฆ่าตัวตาย กลุ่มนั้น จะมี น้ำมูก น้ำลายมาก เหงื่อออก ตาพร่ามัว หอบหืด ใจสั่น ท้องไส้ปั่นป่วน แขนขาไม่มีแรง หากกิน มากๆ ถึงกับ หยุดหายใจ … แต่เชื่อว่า สิ่งที่ปนเปื้อนมาในอาหาร น่าจะมีปริมาณน้อยมาก ไม่พอ ที่จะทำให้เกิดอาการ ดังกล่าว แต่ ก็เพียงพอที่จะรบกวนระบบ ประสาทอัตโนมัติ ทำให้เรารู้สึกไม่สบายตัวมาก

-ชีวิต คนกรุง บางทีก็ไม่มีเวลาปรุงอาหารด้วยตนเอง ต้องซื้อกิน และ สิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ คือ การปรุงอาหารของร้านค้า ในการเลือกวัตถุดิบ การล้างผัก เนื้อสัตว์ หรือ ตลอดจนความสะอาดในการปรุง … เป็นความเสี่ยงนะครับ เราอาจจะได้รับสารต่างๆ ปริมาณน้อยๆ ต่อเนื่องกันทุกวัน … ถ้าเป็นไปได้  หาเวลา ทำอาหารเอง แน่นอนกว่า ปลอดภัยกว่าครับ