รู้ว่าเป็นมะเร็ง แต่ไม่บอกใคร

-วันนี้พบคนไข้ใหม่  มาตรวจพร้อมลูกสาว แจ้งว่ามีก้อนที่เต้านม … พอตรวจร่างกาย ก็พบ ก้อนที่เต้านมขนาดใหญ่ เต็มเกือบทั้งเต้า และมีแผลซึ่งมีเลือดออก ได้มีการทำแผลมาเองแล้ว แผลเต็มรอบหัวนม และ ขยายออกไปข้างๆ … บอกว่า เป็นมาเป็นปีแล้ว ตอนแรกแข็งๆ ต่อมามีแผล และ มีเลือดออก แต่ที่มาหา เพราะ แผลเริ่มมีกลิ่น … บอกหมอว่า ตนเองไม่เคยไปพบหมอ แต่ก็ซื้อยา … (กลุ่มคล้ายยาบำรุง) กิน

-เมื่อตรวจร่างกายโดยละเอียด ผม ก็ได้อธิบาย ข้อสงสัย การวินิจฉัย และ กระบวนการรักษาให้ผู้ป่วยทราบ ว่าคงต้องให้ยาเคมีบำบัดก่อน แล้วค่อยมาผ่าตัด ขณะที่ผู้ป่วย อยากให้ผ่าตัดเลย (ซึ่งในรายนี้ หากจะผ่าตัดเลย ก็เป็นไปได้ แต่หากให้ยาเคมีบำบัดก่อน จะดีกว่ามาก) … เมื่ออธิบาย วางแผน การรักษา และ นัดหมายการดูแล ทั้ง การเจาะชิ้นเนื้อตรวจ และ ตรวจหาการแพร่กระจายของโรค  และการให้ยากินเบื้องต้น... จนผู้ป่วยและญาติ เข้าใจ จึงแยกย้ายกันไปดำเนินการ

-จากประสบการณ์ ที่ได้เห็นผู้ป่วยมามากมาย และ ก็เจอเหตุการณ์ ทำนองเดียวกัน บางรายน้อยกว่านี้ บางรายหนักกว่านี้ … ธรรมดา แพทย์ก็มักจะนึกตำหนิ คนไข้ ว่าทำไมปล่อยไว้ตั้งนาน ไม่มาหาหมอ หากมาเร็วกว่านี้ ก็จะรักษาได้ และ รักษาง่ายกว่านี้ … คำพูดแบบนี้ มักจะเป็นคำที่ได้ยินจากคุณหมอหลายท่าน (ซึ่ง เป็นความจริง แต่ไม่ควรพูด) การบอกว่า มาเร็วกว่านี้ ก็จะดี ก็จะหาย หรือ ออกน้ำเสียงเชิงตำหนิ ทำนองว่า ทำไม่ปล่อยไว้ ทำไมไม่มาหาหมอ ทำไม ไปมัวแต่เชื่อเรื่อง การกินยา (สารพัด สรรพคุณ)…. ล้วนแต่ ไม่เกิดประโยชน์อะไร กับ คนไข้ หรือ กับหมอเอง (ได้แค่ ระบายความรู้สึกของตนเองออกมา) … ณ เวลานี้ เหตุการณ์ ต่างๆ เกิดขึ้นแล้ว มาไกลเกินกว่า ที่จะถอยไปได้แล้ว การโทษกัน การซักไซ้ คาดคั้น เหมือนจะเอาผิดใครสักคน ในสิ่งที่เกิดขึ้น ล้วนไม่เกิดประโยชน์ใดๆ เลย เพราะ ไม่ช่วยในการรักษา ไม่ใช่ให้โรคดีขึ้น และ ก็ไม่ช่วยให้ผู้ป่วย ยอมทำตามหมอ … มีแต่ การพูดความจริง การบอกทางเลือก การให้รู้สถานการณ์ และ ความเห็นอกเห็นใจเท่านั้น ที่จะทำให้เกิดความร่วมมือในการดูแลรักษาโรค และ ดูแลชีวิต หรือคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย .. ผมจึงไม่ได้มีคำต่อว่า ด้วย หน้าตา ท่าทาง หรือ น้ำเสียงเลยแม้แต่น้อย … ซึ่ง คนไข้ ก็เข้าใจสถานการณ์ได้ และ ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

-ลูกของคนไข้ ก็มีความรู้สึกไม่สบายใจ แต่ ก็ ปฏิบัติได้ที ไม่โวยวาย ไม่ดุใส่คุณแม่ ซึ่ง ต้องชมเชยอย่างยิ่งครับ

–เขาทุกข์อยู่แล้ว จะไปเพิ่มความทุกข์ให้เขาอีกทำไม … ผม เล่าเรื่อง ผู้ป่วยอื่นๆ ที่เคยเจอ และ เล่าถึงแผนการรักษา และ ผลการรักษาที่เคยเห็น ว่ายังได้ผลอยู่ … ผู้ป่วยถามว่า อยู่ได้อีกนานไหม .. คำตอบคือ คนไข้ที่เคยเจอหลายคน ก็อยู่ได้อีกหลายปี

-การให้ความรู้ การทำให้คนไข้ เลิกกลัวคีโม หรือ เคมีบำบัดเป็นเรื่องสำคัญ เพราะ ข้อมูลในสื่อต่างๆ ที่ไม่มีการกลั่นกรอง มีการเผยแพร่ ตามความผู้สึกของ เจ้าของ content อย่างเสรี จนเกินเลยจากความจริง มีส่วนทำให้ผู้ป่วยหลายคนเสียโอกาส .. อีกทั้ง ความกลัว ความอาย ความเชื่อ ต่างๆ ทำให้ผู้ป่วยหลายราย ปล่อยโรคไว้จนกระทั่ง เป็นมาก ยากแก่การดูแล .. แต่ยังไง หมอก็ดูแลให้นะครับ