-ความรู้สึกมีความสุข คือ ภาวะที่มี Dopamine หลั่งออกมาในสมอง … Dopamine เป็นสารที่เมื่อกระจายไปสัมผัสเซลล์ประสาทสมองแล้ว เซลล์จะมีสภาพแวดล้อมที่พร้อมทำงาน ทุกอย่างไหลรื่น กระฉับกระเฉง และ มีความสุข … สมอง จึงมักจะอยากได้ Dopamine
-Dopamine หลั่งออกมาจากส่วนแกนกลางสมอง ที่เรียกว่า VTA (ventral tegmental area) ซึ่งสมองส่วนนี้ รับสัญญาณจากทั่วร่างกาย ทั้งจาก ประสาทสัมผัสต่างๆ ศูนย์ความเจ็บปวด การมองเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น และ จาก ส่วนที่สมองจดจำความรู้สึกต่างๆ (ไม่ว่าจะชอบ หรือ ไม่ชอบ) ที่เรียกว่า NAc (nucleus accumbens) ซึ่ง จะรับคำสั่งจากสมองส่วนหน้า ที่เป็นส่วนความรู้สึกนึกคิด เมื่อเจอะเจอ อะไรมา ก็จะรู้สึกชอบหรือไม่ชอบ และ ให้มาจดจำไว้ที่ NAc เมื่อเจออะไรมาอีก ก็เอามาให้ NAc เทียบว่า เป็นสิ่งที่ขอบ หรือ ไม่ขอบ แล้ว ส่งสัญญาณ ไปบอก VTA … สมองส่วน VTA เมื่อรับข้อมูลมา ถ้าชอบ หรือ เป็น + ก็จะปล่อย Dopamine ออกไป ให้เซลล์สมองส่วนอื่น ชื่นใจ มีความสุข
-ถ้าเทียบกับทางพระพุทธศาสนา กล่าวถึง ขันธ์ 5 ก็จะเทียบ NAc ได้กับ สัญญา และ VTA เทียบกับ เวทนา… ดังนั้น หาก NAc คุยกับ VTA ได้บ่อย ได้เร็ว เวลาเจออะไร ก็จะมีสัญญาณ ส่งถึงกันอย่างรวดเร็ว ความรู้สึก สุข หรือ ทุกข์ ก็จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และ แรง เช่น ได้ยิน คำด่ากัน ไกลๆ แต่ เราก็เอามันมาส่งถึง VTA อย่างรวดเร็ว ก็เหมือน เราถูกด่า และ เกิดทุกข์ขึ้นทันที และ ทุกข์มาก โกรธด้วย ว่า ทำไมมาด่าเรา (ทั้งๆที่เป็นคำด่า คนอื่น ที่ไม่เกี่ยวกับเรา) แต่ถ้าหาก มีการหน่วง สัญญาณ จาก NAc ก่อนจะมาถึง VTA มีการประเมินสถานการณ์ ละเอียดขึ้น ไม่ได้ส่งมาที่ VTA ทันที โดยการมี สติ ก็จะช่วยให้ VTA มีความรู้สึก สุข หรือ ทุกข์ ตามสมควรแก่เหตุ
-มีการศึกษา ว่า เราสามารถ ควบคุม การรับสัญญาณ และ ปล่อยสัญญาณของ VTA ได้ คล้ายๆ กับ ที่ทางพระพุทธศาสนา ฝึก ให้มีความรู้สึก ปิติ และ สุข ในการทำสมาธิ ใน ฌาน4
-รู้แล้ว ก็ลอง ฝึกฝนดูนะครับ การเจอกับ สิ่งที่ ไม่ชอบ หรือ เกลือด ก็ไม่จำเป็นต้องทุกข์ครับ

