-ทุกวันนี้ด้วย เหตุผล ด้าน สิ่งแวดล้อม(มลพิษ ฝุ่น PM 2.5) และ ด้านเศรษฐกิจ(ค่าใช้จ่ายน้ำมันรถยนต์) คนเริ่มสนใจการใช้ รถยนต์พลังงานไฟฟ้ากันมากขึ้น แต่ ก็ยังติดปัญหาหลากหลาย เช่น ใช้เวลาชาร์ตนาน หาที่ชาร์ต ได้ยาก และ การเปลี่ยนแบตเป็นเรื่องใหญ่
-อยากชวนให้มองวิวัฒนาการ และ อนาคต ของการใช้ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยย้อนกับประสบการณ์ การใช้งานโทรศัพท์มือถือ ซึ่ง มีวิวัฒนาการอย่างรวดเร็วในช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมา
-เราไม่ค่อยกังวล หรือ ติดปัญหากับ สมรรถนะการขับขี่ และ สิ่งอำนวยความสะดวกของ รถยนต์ขับเคลื่อนไฟฟ้า เหมือนเราไม่ค่อยมีปัญหากับโทรศัพท์มือถือ ในการโทร ส่งข้อความ หรือใช้งานแบบ smart phone .. แต่ อุปสรรคที่สำคัญมากของ โทรศัพท์มือถือในอดีต คือ แหล่งพลังงาน ..
-ในยุคแรกๆ แบตฯ เก็บประจุได้น้อย น้ำหนักมาก ใช้ครึ่งวันก็หมด …ในการแก้ปัญหา ยุคแรก คือ เปลี่ยนแบตฯ ใช้แบตฯสำรอง … เชื่อว่าทุกคนคงมีประสบการณ์ มือถือ เปิดฝาหลังเครื่องได้ และ เราก็ถอด เปลี่ยนแบตฯ เอง … การชาร์ต ก็ชาร์ตตอนกลางคืน แต่ เวลาใช้งาน ก็ไม่สะดุด เพียงแต่มีขั้นตอนการเปลี่ยนแบตฯ …. รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ก็มีแนวคิดนี้เช่นเดียวกัน และ วิธีนี้ก็แก้ไขปัญหา การใช้โทรศัพท์มือถือของเราได้ เป็นเวลา นับสิบปี ทีเดียว แต่สุดท้าย ด้วย เทคโนโลยียุคใหม่ เราจะไม่เห็นโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ เปิดให้เราเปลี่ยนแบตเลย ด้วยสารพัดเหตุผล อันหนึ่ง คือ ทำให้โทรศัพท์ไม่กันน้ำ และ แบตฯที่ใช้ ยี่ห้อใครยี่ห้อมัน รุ่นใคร รุ่นมัน ต้อง ผลิต แบตฯ หลากหลายประเภท ไว้รองรับ หรือสำรอง สำหรับมือถือแต่ละรุ่น … ซึ่งปัญหานี้ ก็เกิดใน รถยนต์พลังงานไฟฟ้า เช่นกัน
-ยุคถัดมา ก็ใช้ power bank ซึ่ง เป็นที่นิยม เพราะ มีความยืดหยุ่นมาก และ เลือกขนาด power bank ได้ตามการใช้งาน โดยที่การผลิต power bank ก็ต้นทุนต่ำกว่าการผลิตโทรศัพท์มือถือมาก จึงเป็นที่แพร่หลาย และ ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน … แต่การใช้ power bank ก็ได้รับความนิยมลดลง เมื่อ มีจุดชาร์ต ไฟตามที่ต่างๆ (แต่ละคนพกสายชาร์ตมาเอง) ทั้ง สนามบิน ห้างสรรพสินค้า มากขึ้นและ ความจุแบตเตอรี่มากขึ้น ทนขึ้น อึดขึ้น และ การชาร์ต เร็วขึ้น บ่อยครั้งที่ในปัจจุบัน หลายคน แทบจะไม่ได้พก power bank เลย เพราะ หนัก และ เกะกะ … ในรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ก็มีระบบ ที่คล้ายกับ power bank โดยใช้ น้ำมัน เป็น power bank เติมน้ำมันเพื่อปั่นไฟ ซึ่ง คล้ายๆ กับ เราใช้มือถือที่แบตมีน้อย หรือ แบตฯเสื่อม และ ต้องเสียบติดกับ power bank ตลอดเวลา
-ในปัจจุบันในโทรศัพท์มือถือ ด้วย เทคโนโลยีที่ดีขึ้น ชาร์ตเร็ว แบตอึด แบตก้อนเล็กลงมาก ร่วมกับ สามารถ ชาร์ต ได้ทุกที่ ไม่จำกัดว่าต้องเป็น จุดชาร์ตเฉพาะ จึงทำให้สิ่งที่เกิดขึ้นในระหว่างวิวัฒนาการทยอยหายไป ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแบตฯ หรือ power bank…. ขณะที่เราก็ยังใช้งานได้อย่างเต็มที่
-ตรงนี้ จะเห็นว่า สุดท้ายของ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า จะไปสู่จุดที่ แบตฯขนาดก้อนเล็ก เบา ชาร์ตเร็ว แบตฯอึต จุได้มาก และ สามารถ ชาร์ตได้ทุกที่ แม้แต่ตามเสาไฟฟ้า ในเมือง … ณ จุดนั้น เชื่อว่า เกือบทุกคนคงเปลี่ยนมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ากันหมด … การเปลี่ยนแปลงนี้ น่าจะเร็วกว่า วิวัฒนาการของโทรศัพท์มือถือมาก เพราะ เรามีบทเรียนแล้ว น่าจะเกิดใน 3-5 ปี … ใครจะลงทุนเทคโนโลยีอะไร ก็คิดๆ กันดูให้ดีนะครับ