สังขาร ย่อมแปรเปลี่ยน

-คนเราหนีธรรมชาติไม่พ้น

-ข้อสังเกต นี้ มีมาแต่โบราณ ในตำรา 《黃帝內經》ซึ่งเป็นตำราแพทย์ศาสตร์ ฉบับแรกสุดของจีน เมื่อ 2,000 กว่าปีก่อน ก็เขียนไว้ใน บทตั้งต้นว่า สรรพสิ่งในโลกล้วนแปรเปลี่ยน และ ในคน ก็เหมือนกัน ในผู้หญิง จะเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าผู้ชาย โดยวงรอบของการเปลี่ยนแปลงในผู้หญิง จะเป็นทุก 7 ปี ในผู้ชาย จะเป็น ทุก 8 ปี โดยใน 7 ปีแรกในหญิง และ 8 ปีแรกในชาย จะเป็นสรีระร่างกายแบบวัยเด็ก พอในวงรอบ 7 ปีที่ 2 (ระหว่างอายุ 8-14ปี) ในหญิง และ 8 ปีที่ 2 (ระหว่างอายุ 9-16ปี) ในชาย จะเป็นช่วงเข้าสู่วัยรุ่น และ เริ่มพร้อมจะมีลูก  พอถึงช่วงที่ 3 จะเป็นวัยที่โตเต็มที่ ร่างกายมีความพร้อม ซึ่งบางคน ก็เรียกว่า วัย เบญจเพส ซึ่ง ในทางการแพทย์ ก็ยืนยันเช่นนั้น คือ กระดูก จะโตเต็มที่ ไม่สามารถโตได้อีกแล้ว คนจะตัวไม่สูงขึ้นอีกแล้ว จากนั้น พอถึง ช่วงวัยที่ 4 ร่างกายจะพร้อมที่สุด และ พร้อมที่จะประกอบภารกิจ การงาน โดยไม่เหน็ดเหนื่อย จากนั้น ย่างวัย ที่ 5 6 7  ก็จะเริ่ม ถดถอย … เหมือนกันทั้ง ชาย

-ในบันทึกตำราจีน ตรงกับ หลัก สรีวิทยาทางการแพทย์ คือ จะพบว่า ผู้หญิง เป็นสาวเร็วกว่า และ เข้าวัยทองเร็วกว่า ในผู้ชาย และก็หยุดสูง ก่อนผู้ชาย หญิง … จากข้อมูลนี้ หญิงวัย 49 ปี จะมีสภาพร่างกาย แก่เท่ากับ ชายวัย 56 ปี

… เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากนะครับ ที่คนโบราณช่างสังเกต และ ก็ตรงกับ อาขยานของล้านนา (แต่แบ่งช่วงอายุเป็น ช่วงละ 10 ปี) และดูเหมือน พูดถึงแต่ ผู้ชายเป็นหลัก … อาบน้ำ บ่ หนาว, แอ่วสาว บ่ หน่าย, ยะก๋านเหมือนฟ้าผ่า, บะโหกเต็มตัว, ไค่หัวเหมือนไห้ ..เป็นการบรรยายการเปลี่ยนแปลง ที่คล้ายคลึงกัน

-ทุกวันนี้ ไม่เป็นไปตามนี้หรอกนะครับ เพราะ การแพทย์เจริญขึ้นมาก และ ในสังคมปัจจุบัน ผู้ชาย ก็มีความเสี่ยงต่างๆเข้ามาแทรกมากมาย ทำให้ ผู้ชาย อายุสั้นกว่าผู้หญิง ทั้ง อุบัติเหตุ เหล้า บุหรี่ และ การตรากตรำงานหนัก … ปัจจุบัน ผู้หญิง จะมีอายุยืนกว่าผู้ชาย และ ยืนกว่าสมัยก่อน ตามที่เขียนไว้ใน คัมภีร์อายุรศาสตร์จักรพรรดิเหลือง ครับ

-การได้รู้ หลัก กิโลเมตร การเดินทาง ของร่างกายตัวเราเองก็ดีนะครับ … เราจะได้วางแผนตัวเองได้ถูก …

 


สังขาร ย่อมแปรเปลี่ยน