เล่าเรื่อง บ้านหมุน หรือ น้ำในหูไม่เท่ากัน อย่างง่าย

-ภาวะ ลุกขึ้นแล้ว เวียนหัว เหมือนจะล้ม หรือ บ้านหมุน ทรงตัวไม่อยู่ บางคนอาการมากจนถึง ตาลาย และ อาเจียน … เป็นภาวะที่มักจะมีการเรียกทางการแพทย์ว่า “บ้านหมุน” “Vertigo” “น้ำในหูไม่เท่าหัน” “หินปูนในหูหลุด” ซึ่งบางครั้ง ก็มาพร้อม อาการมีเสียงดัง วิ้งๆ ในหู หรือ “Tinitus” … มาฟังการเล่าเรื่องนี้ แบบง่ายๆ กันครับ

ตอนที่ 1 เกี่ยวกับส่วนไหนของร่างกาย

-เรื่องทั้งหมด เกี่ยวกับ หูชั้นใน และ ประสาทสมองคู่ที่ 8 ซึ่ง หูชั้นใน ทำหน้าที่ 2 อย่าง คือ 1) รับเสียง เพื่อส่งต่อให้สมองไปแปลเป็นการได้ยิน และ 2) รับสัญญาณ จาก ส่วนรับการทรงตัวหรือบอกตำแหน่ง แบบ 3 มิติ (vestibular system) เพื่อให้สมองรู้ว่า ขณะนี้ ศีรษะ เรา อยู่ตำแหน่งไหน ก้ม เอียง นอนหงาย คว่ำหน้า หรือ กำลังเหวี่ยงซาย เหวี่ยงขวา ฯลฯ

-ถ้าการส่งสัญญาณ จาก หูชั้นใน และ เส้นประสาทหู มาถึงสมอง ไม่พร้อมกัน ช้ากว่าปกติ สมองจะงง เพราะ ปกติ สมองจะ โปรแกรม ให้จดสัญญาณ ประสาทการทรงตัว จากหู 2 ข้าง  ว่าตอนนี้ ตำแหน่งของ ศีรษะ อยู่ตรงตำแหน่งไหน ถ้า สัญญาณ ข้างใดข้างหนึ่งมาช้า จะรับรู้ตำแหน่งคลาดเคลื่อน ทำให้เหมือน กำลังอยู่บนเรือที่โคลงเคลง เกิดอาการ เหมือนบ้านหมุนติ้วอยู่ครัรบ … ปัญหา หลักคือ สัญญาณ ที่เข้าไปถึง สมอง ด้านใดด้านหนึ่งช้ากว่าปกติ (ถ้าช้า 2 ด้าน ก็จะไม่สัมพันธ์กับ สิ่งที่มองเห็น กรณีนี้ หลับตา จะไม่เวียน แต่ลืมตา จะเวียนหัว)

ตอนที่ 2 อะไรเป็นสาเหตุ ให้ สัญญาณจากเส้นประสาทสมองคู่ที่ 8 ข้างใดข้างหนึ่ง มาถึงสมอง ช้ากว่าปกติ

-สาเหตุ เป็นได้จาก อวัยวะรับรู้การทรงตัว (vestibular system) และ จากเส้นประสาทหู … อาการบ้านหมุน มักจะเกิดกะทันหัน และ หายกลับเป็นปกติได้ ดังนั้นปัญหาจาก อวัยวะรับรู้การทรงตัว เสื่อมสภาพ หรือ เสียหาย จึงไม่น่าจะใช่สาเหตุ เพราะ อวัยวะส่วนนี้ ได้รับการปกป้องอย่างอยู่ อยู่ในกะโหลกศีรษะ และ ไม่มีช่องทางสัมผัสกับโลกภายนอกโดยตรง .. ส่วนที่ได้รับอันตรายง่ายกว่า คือ เส้นประสาทหู คู่ที่ 8 … ปกติ อันตรายกับเส้นประสาท เกิดได้หลายสาเหตุ ถูกกระทบกระแทก ถูกกด ถูกเบียด จากภายนอก หรือ มีการอักเสบ บวมขึ้น หรือ ขาดเลือดมาเลี้ยง .. ปัญหาการถูกกดเบียดจากภายนอก โอกาสค่อนข้างน้อย เพราะว่า เส้นประสาท ซ่อนอยู่ในกะโหลกศีรษะ ส่วนเรื่อง การบวม เป็นได้หลายอย่าง เช่น ติดเชื้อไวรัส หรือ เกิดต่อเนื่องจากการขาดเลือด หรือ การไหลเวียนเลือดไม่ดี ทำให้ เส้นประสาทบวมขึ้น และ เมื่อบวมขึ้น ด้วยความที่อยู่ในกะโหลกศีรษะ ในพื้นที่ แคบๆ อาจจะเป็นเหตุให้เกิดการกดเบียด เส้นประสาทได้เพราะไม่มีที่ขยับ … ดังนั้น นอกจากติดเชื้อไวรัสแล้ว ก็น่าจะเป้นปัญหา จาก เส้นประสาทขาดเลือด มีเลือดไปเลี้ยงไม่พอ ทำให้เส้นประสาทบวม เป็นปัญหาต่อมา เป็นทอดๆ

ตอนที่ 3 อะไรเป็นเหตุให้เส้นประสาทสมองคู่ที่ 8 ขาดเลือด หรือ เลือดมาเลี้ยงไม่พอ

-เส้นเลือดที่มาเลี้ยงเส้นประสาทสมองคู่ที่ 8 เป็นเส้นเลือดขนาดเล็กมาก อยู่บริเวณ ฐาน กะโหลกศีรษะ และ ไม่ใช่ แขนงหลักของเส้นเลือดใหญ่ ที่ไหลจากหัวใจไปที่สมอง แต่ เป็นแขนงของ ทางเชื่อม ระหว่าง เส้นเลือดใหญ่ด้านหลังคอ กับ เส้นเลือดใหญ่ ด้านหน้าคอ อีกที … เลือดไปเลี้ยงสมอง จะมีทางเชื่อมถึงกัน โดย มีเส้นเลือดหลักด้านหน้าคอ 2 เส้น (carotid a.) และ เส้นเลือดหลักด้านหลังคอ 2 เส้น (vertebral a.) … เส้นเลือดที่ไปเลี้ยง เส้นประสาทสมองคู่ที่ 8  เป็นแขนงที่แยกออกมาจากตรงทางเชื่อม ใกล้กับ เส้นเลือดแดงหลักด้านหลังคอ Vertebral a.

-ถ้าการไหลเวียน ของเส้นเลือดแดงหลักด้านหลังคอ ถูกรบกวน เลือดจะมาเลี้ยง เส้นประสาทสมองคู่ที่ 8 น้อยลง

เส้นเลือดแดงหลักด้านหลังคอ vertebral a. ถูกรบกวนได้ง่าย เพราะร้อยอยู่ในกระดูกต้นคอ เวลา กล้ามเนื้อต้นคอ ตึง กระดูกจะถูกดึงรั้ง ให้บิดงอ เส้นเลือด ก็พลอยถูกบิดไปด้วย เลือด จึงไหลเวียนไม่สะดวก เส้นประสาทสมองคู่ที่ 8 จึงขาดเลือด จึงบวม และ ส่งสัญญาณช้าลง ทำให้สมอง งง เกิดอาการบ้านหมุน

ตอนที่ 4 แก้ที่ต้นเหตุ

-แก้ปัญหาบ้านหมุน ต้อง ให้ สัญญาณประสาท ไปถึงสมอง ได้ดี เส้นประสาทสมองคู่ที่ 8 ต้องไม่บวม ต้องไม่ขาดเลือด  … ต้องรับเลือดจากเส้นเลือดแดงหลักด้านหลัง vertebral a. ได้ดี โดยเส้นเลือด ต้องไม่ถูกบิด กระดูกต้นคอ ต้องไม่ถูกบิด กล้ามเนื้อต้นคอ ต้องไม่ตึง เพื่อกระดูกต้นคอ ไม่ถูกบิด … ครบวงจรพอดี … ดังนั้น การดูแลเรื่องบ้านหมุน ต้อง เริ่มดูแล ที่กล้ามเนื้อต้นคอ ไม่ให้ตึง ให้ผ่อนคลาย จะนวด จะฝังเข็ม จะยืดเหยียด ได้ทั้งนั้น แล้วจะค่อยๆ ดีขึ้น

-การรักษา ปัจจุบัน ที่นิยมใช้กัน คือ ให้กินยา ไปขยายหลอดเลือด เพื่อหวังให้เส้นเลือดขยายตัว เลือดไปเลี้ยงเส้นประสาทสมองคู่ที่ 8 เพิ่มขึ้น แต่ เป็นการรักษาแบบ เหวี่ยงแห … ชวนให้รักษาให้ตรงจุดกันครับ


เล่าเรื่อง บ้านหมุน หรือ น้ำในหูไม่เท่ากัน อย่างง่าย