-ทฤษฎี เดิม เกี่ยวกับการปวดกล้ามเนื้อ เมื่อต้อง ใช้งานกล้ามเนื้อหนักๆ มักจะพูดถึงการที่มี กรด แลคติก คั่ง ในกล้ามเนื้อ และด้วยความเป็นกรด ทำให้เกิดการปวดกล้าเมเนื้อขึ้น … เวลา คลายปวด ด้วยการนวด จึงมักจะคิดว่า ต้อง นวดให้แรง เพื่อให้เลือดไหลเวียน ไปนำ กรดแลกติก ออกมา จะได้หายปวด … ในการศึกษา ใหม่ ๆ มี ทฤษฎี ที่เชื่อได้ว่า อาการปวดส่วนใหญ่ ไม่ได้อยู่ในกล้ามเนื้อ (Muscle) แต่ อยู่ในส่วนผิว ของ พังผืดที่หุ้มกล้ามเนื้อ (Fascia)
-จริงอยู่ครับ เวลา กล้ามเนื้อ ต้องออกแรงมาก หรือ ออกแรงเกินกำลัง จะมีการใช้พลังงานแบบไม่ใช้ ออกซิเจน (anaerobic) ซึ่ง ผลลัพธ์ของการใช้ พลังงานแบบนี้ คือ เกิด กรด แลคติก (Lactic acid) ขึ้น ซึ่ง กรด แลคติก จะทำให้เกิดภาวะเนื้อเยื่ออักเสบขึ้น (ไม่ได้อักเสบเฉพาะกล้ามเนื้อ) .. แต่ปรากฏการณ์นี้ อธิบายลักษณะการปวดกล้ามเนื้อไม่ได้ เพราะ หากเกิดจาก กรดแลคติก มีผลกับ กล้ามเนื้อ ควรจะมีอาการปวดขึ้นทันที แต่บ่อยครั้ง อาการปวดกล้ามเนื้อ จะไม่ได้เกิดขึ้นทันทีทันใด มักจะเกิดตอนเย็นหลังจากพัก หรือ เกิด ในอีก 2-3 วันถัดมา คนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย พอไปออกกำลังกาย จะรู้สึก ปวดเมื่อย เหมือน เนื้อตัวจะขาด ในวันที่ 2-3 หลังการออกกำลังกาย ภาวะนี้เรียกว่า DOMS หรือ “Delayed Onset Muscle Soreness”
-มีการศึกษา พบว่า เมื่อมีการออกกำลังกาย เกิดขึ้น จะพบการอักเสบ ที่บริเวณส่วนของ พังผืดที่หุ้มกล้ามเนื้อ (Fascia) มากกว่า ที่ตัวกล้ามเนื้อเอง จากภาพ ก จะพบ บริเวณที่เป็นสีแดงเพิ่มขึ้น อยู่ตรงตำแหน่ง ส่วนที่ผิวๆ (พังผืด) มากกว่า ส่วนที่อยู่ลึกๆ (กล้ามเนื้อ) เมื่อเทียบกับ ภาพ ก่อนออกกำลังกาย … สีแดง แสดงถึงความตึง และการอักเสบ (มีเลือดมาเลี้ยงมากขึ้น)
-และ ในอีกหนึ่งการศึกษา พบว่า ส่วนที่เป็นพังผืดหุ้มกล้ามเนื้อ (Fascia) มีปลายประสาทรับความรู้สึกเจ็บปวด (รวมถึงถูกกระตุ้นจากการอักเสบ) หนาแน่นกว่า ….ในภาพ ข สีน้ำตาล เป็นการย้อม S100 เพื่อจับกับ ปลายประสาท เมื่อเทียบกับ ส่วนของกล้ามเนื้อ
-ข้อมูลทั้ง 2 บอกเราว่า ส่วนของพังผืด เป็นส่วนที่มีการอักเสบ ในวันที่ 2-3 ซึ่งเป็นผลจากการออกกำลังกาย ขณะที่ ส่วนของกล้ามเนื้อไม่ได้เป็นปัญหา (เพราะ เลือดไหลเวียนมาเลี้ยงได้มากกว่า จึงลดการอักเสบเร็วกว่า) และ การอักเสบ บริเวณ พังผืด (Fascia) ซึ่ง มีปลายประสาทรับความเจ็บปวดจำนวนมากกว่าในกล้ามเนื้อ จึงทำให้เรารู้สึก ปวด หรือ เมื่อล้า ได้มากๆ
-ดังนั้น ในการนวด เพื่อลดอาการเจ็บปวด จึงควรมุ่งเป้าไปที่ ผังผืดหุ้มกล้ามเนื้อมากกว่า การนวดที่ตัวกล้ามเนื้อ ซึ่ง พังผืดทั้งหลาย จะหุ้มอยู่ภายนอกกล้ามเนื้อ จึง ไม่จำเป้นต้อง นวดแบบ ขยำ หรือ บีบแรงๆ แค่ บีบนวดเบาๆ ก็จะมีผลกับ พังผืดหุ้มกล้ามเนื้อแล้ว ทำให้การไหลเวียนเลือดบริเวณดังกล่าวดีขึ้น อักเสบน้อยลง อาการปวดจะคลายตัวลง (เส้นประสาทรับความรู้สึกเจ็บปวดไม่ถูกกระตุ้น) นอกจากกระตุ้น ระบบไหลเวียนแล้ว ยังมีการกระตุ้นระบบประสาทรับการสัมผัส (คนละส่วนกับ ประสาทรับความเจ็บปวด) ทำให้ ไขสันหลัง และ สมอง รับรู้ถึงความรู้สึกปลอดภัย ผ่อนคลายได้อีกด้วย … นี่คือ อีกหนึ่ง เหตุผล ที่เครื่อง นวดแบบสั่น ที่มีขายอยู่ในท้องตลาด นวดแล้วได้ผล เพราะแค่สั่น หรือ คลึงเบาๆ ก็ได้ผลดีแล้ว … ไม่ต้อง บีบ หรือ นวดแรงๆ นะครับ