–สมัยเด็กๆ ผมเคยตกรถเมล์ … ประสบการณ์แบบนี้ บางคนอาจเคยเจอกับตัวเอง … มือซ้าย ถือกระเป๋านักเรียน มือขวาเกาะราวรถเมล์ (ซึ่งมีหลายมือ แย่งกันเกาะอยู่) ขาขวาเหยียบที่ราวบันไดขั้นสุดท้าย (เหยียบได้แค่ปลายเท้า) พอรถออก กระชากแรง ตัวเราก็ร่วงลงจากรถ กลิ้ง 3 ตลบ ข้อศอกถลอก โชคดีที่ไม่โดนรถทับ
–ภาพการโหนรถเมล์ เป็นสิ่งที่คนไทยเราได้เห็นจนเป็นเรื่องชินตา ชินชา …. มองว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะมันต้องทำ บริการรถ มีไม่มาก ความปลอดภัยมีไม่มาก แต่ต้องเดินทางไป ก็ทนๆเอา และ ยอมรับได้กับเรื่องแบบนั้น … ถามว่า เป็นสิ่งที่ควรเกิดขึ้นไหม คำตอบคือ “ไม่” แน่นอนครับ ทุกคนก็คิดแบบนี้ .. แต่มันก็เคยเกิดขึ้น เนื่องจาก ปัจจัยต่างๆ ในยุคสมัยนั้น ความไม่พร้อม ความขาดแคลน ความไม่มีประสิทธิภาพ
-ทุกคนรู้อยู่ในใจครับ แต่ในจังหวะนั้น ทำอะไรไม่ได้ครับ เพราะถ้าจะทำ ก็คือ เดิน หรือนั่ง taxi หรือ ซื้อรถ… นั่นหมายถึง หลายคนไม่มีโอกาสที่จะทำได้ครับ … แต่ด้วยความที่ทุกคนรู้ว่า อะไรถูก อะไรควรทำ … การเปลี่ยนแปลงก็ค่อยๆ เกิดขึ้น จนปัจจุบัน รถเมล์ที่จอดนอกป้ารถเมล์ที่ไม่ปิดประตูเวลารถออก ไม่มีอีกแล้ว เช่นเดียวกับ รถไฟฟ้า … ทำให้ ภาพการโหนรถเมล์หายไป … เหลือไว้แต่ ภาพความทรงจำ
-หลายเรื่องในสังคม ที่เราเห็นเป็นข่าวอยู่ในทุกวันนี้ .. การใช้อำนาจเกินขอบเขต หาผลประโยชน์ให้ตัวเอง การเปิดพนันออนไลน์ การมีบ่อน การอุ้มฆ่าทำร้ายร่างกาย การค้ายา การค้ามนุษย์ แก้งค์คอลเซนเตอร์ การมีรถตำรวจนำด้วยการจ้างวาน ฯลฯ ภาพเหล่านี้ ไม่ผิดอะไรกับ ภาพ “โหนรถเมล์” ครับ … ถ้าเราทุกคนมองเห็นภาพที่ควรจะเป็น และ เราร่วมกันหาทางออก วันหนึ่งข้างหน้า ภาพเหล่านี้ จะ เหลือไว้แต่ ภาพความทรงจำ ครับ