-มีคนไข้มะเร็งเต้านม มาปรึกษา ได้แนะนำการรักษา เริ่มด้วยการผ่าตัด เพราะ โรคยังเป็นไม่มาก น่าจะระยะที่ 1 หรือ 2 ต้นๆ แต่ คนไข้ พยายามถามว่า รออีกหน่อยได้ไหม อีกสักเดือน ได้ไหม ในระหว่างบทสนทนา พูดถึงความจำเป็นที่ต้องดูแลแม่ แต่ มีญาติมาด้วย คอยให้การ support ซึ่ง เชื่อว่า การนอน รพ 1-2 วัน ไม่น่าจะมีผลกระทบถึงการดูแลแม่… ในระหว่างพูดคุย ได้รับการสอบถามถึง NK cell (ถามลอยๆ ว่า เป็นยังไง)… ผู้ป่วยรายนี้ ตระเวนหาหมอมา 1 เดือนกว่าแล้ว… เลยอยากเล่าเรื่อง NK cell รักษามะเร็ง เพื่อเป็นความรู้ครับ จะได้ไม่เข้าใจผิด เพราะ ว่า ใน social มีการ กล่าวอ้างถึง ซื่อนี้ ในหลากหลายรูปแบบครับ
–การรักษา มะเร็งเต้านมที่เรารู้จักกัน ก็มีตัวหลักๆ คือ ผ่าตัด ฉายแสง และ คีโม(เคมีบำบัด) ปัจจุบัน ก็มีเพิ่ม ยาต้านฮอร์โมน และ ยามุ่งเป้า ส่วนเรื่อง NK cell เป็นเรื่องใหม่ อยู่ในกลุ่ม ภูมิคุ้มกัน บำบัด ซึ่ง ภูมิคุ้มกันบำบัด ก็มีหลายวิธี ไม่ใช่ เฉพาะ NK cell
–NK cell หรือ Natural Killer cell คือ เซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่ง มีอยู่ ตามปกติในร่างกาย จะเป็นเม็ดเลือดขาว ที่มีอาวุธครบมือ (ประมาณ นาวิกโยธิน) ที่จะเข้าทำลาย เซลล์ หรือ สิ่งแปลกปลอม ที่เข้ามาอยู่ในร่างกายของเรา เป็นระบบภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ ดังนั้น NK cell จึงไม่ใช่ อะไร ที่จะสามารถนำมาจากภายนอกร่างกายได้ จะต้องเป็นเม็ดเลือดขาว ที่ถูกพัฒนา ให้ทำหน้าที่ NK มี ข้อสังเกต ทางการแพทย์ว่า หากพบ NK cell ในปริมาณ มาก การกำจัดมะเร็ง จะได้ผล คล้ายๆ กับเรามี หน่วย Navy ที่เข้มแข็งจำนวนมาก พร้อมที่จะออกรบ ก็มีโอกาส รบชนะ … เพียงแต่ว่า คำสั่ง ใน NK cell มีมากขึ้น และ ออกมาทำงานมากขึ้น จะต้องมีตัวกระตุ้น นั่นคือ มีหน่วยข่าว คอยส่งสัญญาณ ให้ NK ออกมาทำงาน นอกจากนี้ ยังต้อง มี ตัวชี้เป้า ให้ NK รู้จัก ว่า เซลล์ไหนเป็นเซลล์มะเร็ง … โดยธรรมชาติแล้ว เซลล์มะเร็ง จะมีหน้าตา คล้าย เซลล์ปกติของร่างกายมาก (ดูจาก สัญญาณการสื่อสารระหว่างเซลล์) ดังนั้น ในบางกรณี แม้แต่ NK cell กับ เซลล์มะเร็ง เคลื่อนที่มาอยู่ใกล้กัน NK cell ก็อาจจะไม่รู้จักว่า นั่นคือมะเร็ง ต้องทำลาย กลับคิดว่า เป็นเซลล์ปกติ ทั้งนี้ อาจจะเพราะ ว่า ยังไม่เคยมี รหัส ของ สิ่งแปลกปลอม ของ เซลล์มะเร็ง ให้ NK cell รู้จัก หรือ อาจจะเป็นเพราะ เซลล์มะเร็ง สร้าง สัญญาณหลอก PD-1 มาทำให้ NK cell คิดว่า มันเป็นเซลล์ปกติของร่างกาย จึงไม่เกิดการทำลายเซลล์มะเร็งขึ้น
-วิธีการทางการแพทย์ ในปัจจุบัน ที่มีการทดสอบว่าได้ผล ในการรักษาด้วย ภูมิคุ้มกัน บำบัด มี 2 แบบใหญ่ๆ แบบแรก คือ CAR T cell นั่น คือ นำก้อนเนื้อมะเร็ง มาสกัด เพื่อให้ได้ สาร antigen(Ag) ที่เป็นลักษณะเฉพาะที่อยู่ที่ผิวเซลล์นั้นๆ มารวมกับ เซลล์เม็ดเลือดขาวของร่างกาย และ ทำให้ เซลล์เม็ดเลือดขาว รู้จัก Ag นั้น เหมือน เอา เม็ดเลือดขาว มาฝึกให้เป็น นาวิกโยธิน ที่มีความสามารถในด้านการรบ สำหรับ มะเร็ง เฉพาะ ของผู้ป่วยคนนั้น จากนั้น จึงนำ เซลล์เม็ดเลือดขาว ที่ฝึกแล้ว ซึ่งเป็น NK cell แต่ได้รับ ฉายาใหม่ว่า CAR T cell (chimeric antigen receptor T cell) … ขื่อคล้ายๆ ตอนหนึ่ง ในภาพยนตร์เรื่อง mission impossible จากนั้น จึงนำ CAR T cell ดังกล่าว ฉีดกลับเข้าไปในร่างกายคนไข้ ให้ ทำการกำจัดมะเร็ง… ส่วนแบบที่ 2 พบว่า เซลล์มะเร็งนั้น ใส่หน้ากาก ที่มีสัญลักษณ์ PD-1 ไว้คอยหลอก NK cell ก็รักษา โดย ฉีดยา ที่ไป จับกับ PDL-1 ซึ่ง เป็นตัวรับสัญญาณ ไม่ให้ NK cell ถูกหลอก เมื่อเซลล์มะเร็ง ถูกเปิดโปง ธาตุแท้ ให้ NK cell เห็น ก็จะถูก NK cell ร่วมกัน ทำลาย เซลล์มะเร็งให้ตาย เกิดผลการรักษา ได้ … วิธีการ ภูมิคุ้มกันบำบัด จึงน่าสนใจ มากกว่า เคมีบำบัด ตรงที่ ไม่ทำลาย เซลล์อื่นๆ ไม่ใช่มะเร็ง
-การรรักษาทั้ง 2 แบบนี้ ล้วนมี NK cell ซึ่งเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มีอยู่ตามปกติ ในร่างกายของคนเราอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า การทำให้รักษาได้ ยังไม่ได้ง่ายมาก แบบเดียวกับ การฉีดยา หรือ ผ่าตัด ยังมีขั้นตอนปฏิบัติหลายขึ้นตอน … แต่ด้วยความที่ NK cell มีความสามารถเป็นพระเอก จึง มีกระบวนการ ล่อหลอก ว่ามีวิธี การเพิ่ม NK cell ให้กับร่างกาย มียากิน ที่ขาย ตาม platform online หรือ บางคลินิก ไม่กี่เม็ด หลัก พันบาท หรือ มีการพูดถึง ประสิทธิภาพของยา ว่า กินยาแล้ว เจาะเลือดดูระดับ NK cell ดูสิ ว่ามันเพิ่มขึ้นไหม … เป็นเหตุ ให้คนไข้บางคน หลงเชื่อ อยากลอง เพราะ รู้สึกว่า ง่าย แค่ กินยา ไม่ต้อง ฉีดยา ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องผมร่วง ไม่ต้องถูกฉายรังสี และ ราคา ก็ไม่แพงมาก ซื้อได้ …ประมาณนั้น
-แต่ลืมนึกไปว่า ระหว่างรอ มะเร็งไม่รอเรา เพิ่มจำนวน และ ลุกลามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และ วิธีการที่กล่าวอ้าง ก็ไม่มีอยู่จริง แค่ เอาชื่อ NK cell พระเอกของเรื่องนี้มาหลอกขาย … บาปกรรมจริงๆ
-เอวัง… ถ้าสามารถใช้ ภูมิคุ้มกันบำบัด แพทย์ สามารถทำได้ครับ แพทย์จะแนะนำเอง ว่า กรณีนี้ ควรได้รับภูมิคุ้มกันบำบัด เพียงแต่ว่าในปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายในการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัดยังแพงมากอยู่รับ แพงกว่า ยาที่ขายในท้องตลาด เป็น พัน เป็น หมื่น เท่าครับ

