ทำงานหลายอย่างพร้อมกัน Multitasking ใช่ว่าดี

-บางครั้ง เวลาเราเห็นคนทำงานได้หลายอย่างพร้อมๆกัน  (Multitasking) เรามักจะรู้สึกชื่นชม รู้สึกว่า เก่งจัง โดยเฉพาะเด็กยุคใหม่ .. แต่ พอเรานึกถึง ว่าคนที่ชับรถด้วย คุยโทรศัพท์ไปด้วยเกิดอุบัติเหตุบ่อย ก็รู้สึกไม่ค่อยดี .. ความเป็นจริงทางวิทยาศาสตร์ เป็นอย่างไร

-มีการศึกษา ในนักศึกษามหาวิทยาลัย จำนวน 218 คน ที่เป็นอาสาสมัคร ให้ ทำกิจกรรม 2 อย่าง คือ เช่น SUDOKU ที่เป็นการหาตัวเลขมาเติมในตาราง ให้ การบวกเลขได้คำตอบที่ตรงกันในทุกแนว และ อีกหนึ่งกิจกรรม คือ การหา คำศัพท์ (word search) บนตารางตัวอักษร  ซึ่งต้องใช้ทักษะ และ สมาธิ ในการมองหาคำศัพท์ที่ถูกต้อง โดยที่อาสาสมัคร จะได้รับ รางวัล 1 ยูโร สำหรับทุกๆ 11 คะแนน ตามจำนวนคะแนนที่ทำได้ โดยที่ ในกิจกรรม SUDOKU ถ้าเตมตัวเลขถูกต้อง 1 ตัวจะได้ 6 คะแนน แต่ถ้าผิด จะติดลบ 6 (เพื่อห้องกันการเดา) ขณะที่ การหาคำศัพท์ จะได้คำละ 9 คะแนน โดยให้เวลาทั้งหมด 24 นาที และ แบ่งอาสาสมัคร เป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรก จะทำเรียงลำดับ กิจกรรมละ 12 นาที กลุ่มที่ 2 จะถูกบังคับให้ สลับกิจกรรม ไปยังอีกกิจกรรมหนึ่ง ทุกๆ 4 นาที (เป็นลักษณะของ multitasking คือ ทำกิจกรรมหลายอย่างในเวลาเดียวกัน) และ กลุ่มที่ 3 เป็นการสลับกิจกรรมได้ตามใจชอบ (multitasking ที่เลือกได้เอง ไม่ถูกบังคับ ซึ่งน่าจะดี)

-กิจกรรมจะถูกจัดให้ทำ 2 รอบ โดยรอบแรก เป็นเหมือนรอบทดสอบ อุ่นเครื่อง ทั้ง 3 กลุ่มทำเหมือนกัน และ รอบที่ 2 เป็นรอบทำจริง 3 กลุ่มไม่เหมือนกัน

-ผลการศึกษาพบว่า ในกลุ่มที่ทำงานหลายอย่าง (multitasking) มีความสามารถในการทำงานลดลง ได้คะแนนลดลง กว่า ตอนที่ทำ ทีละอย่าง ขณะที่กลุ่มทำทีละอย่าง ในรอบ 2 ทำได้ดีขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นเพราะความคุ้นเคย … ซึ่งการศึกษานี้ บอกเราว่า การทำงานสลับไป สลับมา ทำให้ประสิทธิภาพลดลง ไม่ว่าจะเป็นการถูกบังคับให้สลับ หรือ เลือก สลับเองตามความสมัครใจหรือตามต้องการ … ดังนั้น จากการศึกษานี้ จะเห็นว่า การทำงานทีละอย่าง จะได้ผลดีกว่า ซึ่งอาจจะเกิดจากความจดจ่อ หรือ สมาธิมากกว่า การที่ต้องเปลี่ยน สลับหัว สลับความคิด ไปมา เพื่อทำงานหลายอย่างครับ


ทำงานหลายอย่างพร้อมกัน Multitasking ใช่ว่าดี