เนื้องอกมดลูก ต้องผ่าตัดไหม

-คุณสุภาพสตรีมักจะได้รับการบอกเล่าจากแพทย์เวลาตรวจภายในประจำปีว่า มีเนื้องอกมดลูก และได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการผ่าตัด สั้นๆ ทำให้ลังเลใจ ตัดสินใจไม่ได้ว่าควรจะรับการผ่าตัดหรือไม่

-ส่วนประกอบของมดลูกที่สำคัญ (ไม่รวมรังไข่) มี 2 ส่วน คือ ส่วนกล้ามเนื้อ และ ส่วนเยื่อบุโพรงมดลูก …การมีเยื่อบุโพรงมดลูก มีไว้เมื่อมีการผสมของตัวอ่อน(ไข่กับอสุจิ) จะได้มีที่ฝังตัวของตัวอ่อน รับเลือด รับอาหาร รับออกซิเจน เพื่อเจริญเติบโตเป็นทารกในครรภ์ ตลอดระยะเวลา 9 เดือนที่แม่อุ้มท้อง ส่วนของเยื่อบุโพรงมดลูก หากไม่มีการฝังตัวของตัวอ่อน (ไม่ได้ถูกใช้งาน) จะหลุดลอกออกเป็นเลือดประจำเดือน เพื่อรอสร้างใหม่ในเดือนถัดไป และ ส่วนประกอบส่วนที่ 2 ของ มดลูก คือ กล้ามเนื้อมดลูก จะทำหน้าที่บีบรัด ไล่เลือดที่ลอกออกให้ออกมานอกร่างกาย เป็นประจำเดือน กล้ามเนื้อมดลูกนี้ นอกจากจะช่วยในการบีบไล่ประจำเดือนแล้ว เมื่อตั้งท้อง ยังเป็นตัวป้องกันทารก ให้อยู่ในพื้นๆที่ปลอดภัย และ เมื่อเวลาจะคลอด ยังทำหน้าที่ บีบ ให้ทารก เคลื่อนผ่านช่องคลอดออกมาสู่โลกภายนอก … ดังนั้น มดลูกที่เราตรวจพบ ส่วนใหญ่ จึงเป็นส่วนของกล้ามเนื้อมดลูก ซึ่งลักษณะเหมือนผลชมพู่ ที่มี ขั้วหรือจุก อยู่ทางด้านล่าง

-เนื้องอกมดลูก ที่คุณหมอ พูดถึง จึงเป็น เนื้องอก ที่เกิดในส่วนของกล้ามเนื้อมดลูก ชื่อเดิมเรือกว่า Myoma Uteri ปัจจุบัน นิยมเรียกว่า Uterine Fibroids เนื่องจาก เนื้องอกมดลูกนี้ องค์ประกอบส่วนใหญ่ เป็น พังผืด ที่จับตัวเป็นก้อน มีส่วนที่เป็นกล้ามเนื้อที่สามารถบีบรัดตัวเอง น้อยมาก จึงเป็นก้อนเนื้อเฉยๆ ที่ไม่ได้ทำงานหรือมีประโยชน์อย่างใด แต่เกิดอยู่ในชั้นต่างๆของกล้ามเนื้อมดลูก บางครั้ง โตเข้าไปในโพรงมดลูก บางครั้ง โตในส่วนกล้ามเนื้อมดลูก และ บางครั้ง โตออกนอกมดลูก เป็นติ่งยื่นออกมาในช่องท้อง … ด้วยความเป็นเนื้องอกที่เป็นพังผืด จึงไม่มีอันตราย ไม่ใช่มะเร็ง  และ มักจะโตช้าๆ  ใช้เวลาโตขึ้นเล็กน้อย เป็นเวลาหลักเดือน หรือหลักปี ในขณะที่แพทย์ตรวจพบ อาจจะมีเนื้องอกมดลูกนี้ อยู่กับเรามานานแล้ว แต่ บังเอิญ เพิ่งมาตรวจพบ

-ด้วยเหตุที่ไม่ใช่ เนื้อร้าย และ โตช้า ความจำเป็นในการผ่าตัดจึงมีน้อย โดยเฉพาะ เนื้องอกมดลูกที่มีขนาดเล็ก แทบจะไม่ต้องทำอะไรกับมันเลย ปล่อยทิ้งไว้ได้ และ มักจะฝ่อไปเองหลังหมดประจำเดือน (ฮอร์โมนเพศหญิง มีส่วนกระตุ้นในเนื้องอกนี้โตขึ้นทีละน้อย) แต่ บางครั้ง หากเนื้องอกมีขนาดใหญ่ อาจจะโตและกดเบียดกระเพาะปัสสาวะที่อยู่ทางด้านหน้าของมดลูก ทำให้กระเพาะเก็บปัสสาวะได้น้อยกว่าปกติ มีอาการปวดปัสสาวะบ่อยขึ้น ซึ่ง ถ้าเนื้องอกขนาดเกิน 4 ซม มักจะเริ่มมีอาการ หรือ หากเนื้องอกมดลูกนี้ เกิดในส่วนที่อยู่ในโพรงมดลูก จะทำให้การบีบไล่ประจำเดือน บีบได้ไม่แน่นสนิท เพราะมีก้อนเนื้อขวางอยู่ จึงมีประจำเดือนออกมามาก และ นาน หรือ ในกรณี ที่อยากจะตั้งครรภ์มีบุตร เนื้องอกในโพรงมดลูก อาจจะทำให้การฝังตัวของตัวอ่อนเกิดได้ยากขึ้น เกิดภาวะมีบุตรยาก ทั้ง 3 เหตุผล จึงเป็นเหตุให้ควรได้รับการผ่าตัด

“สรุปว่า เนื้องอกมดลูกขนาดเล็ก ไม่มีอาการ ไม่อันตราย ไม่ใช่มะเร็ง ไม่ต้องผ่าตัดครับ”


เนื้องอกมดลูก ต้องผ่าตัดไหม