–ไส้เลื่อน เป็นโรค หรือ ภาวะที่เกิดจากความบกพร่องของกล้ามเนื้อผนังหน้าท้อง พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ในธรรมชาติ อัณฑะ จะ เคลื่อนตัวจากแหล่งกำเนิดที่อยู่ในช่องท้องลงมาที่ถุงอัณฑะระหว่างขาหนีบ ทำให้มีช่องแคบๆ เป็นรอยต่อตามธรรมชาติ ระหว่าง ช่องท้องกับ ถุงอัณฑะ แต่ว่าช่องนี้ จะตีบแคบลง จนไม่มีอะไรผ่านไปได้ ด้วยกล้ามเนื้อหน้าท้องที่ซ้อนกันอยู่ และ แข็งแรงพอ แต่ หากมีแรงดัน ในช่องท้องเพิ่มขึ้น ต่อเนื่องยาวนาน เช่น คนที่สูบบุหรี่จัดและไอเรื้อรังจากถุงลมโป่งพอง หรือ โรคปอด คนที่มีต่อมลูกหมากโตและต้องเบ่งปัสสาวะ คนที่ท้องผูก และ ต้องเบ่งอุจจาระบ่อยๆ แรงดันที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับ กล้ามเนื้อหน้าท้องที่แข็งแรงลดลงตามวัย จะทำให้ ช่องที่เคยปิดอยู่ ค่อยๆ ถูกถ่างขยายออก และ กว้างขึ้นเรื่อยๆ เป็นทางให้ ลำไส้ และ อวัยวะในช่องท้อง เคลื่อนที่ไหลลงมาสู่ถุงอัณฑะได้ …. อาการที่พบ คือ รู้สึกหน่วง และ ตึง บริเวณขาหนีบ หากเป็นมาก จะเห็นเป็นก้อนนูนออกมาก เป็นมากเวลาเบ่ง หรือ ไอ หรือ ท่ายืน แต่ จะยุบลงได้เวลานอนลง
–ไขมันในช่องท้อง และ ลำไส้ อาจจะเคลื่อนเข้ามาในถุงอัณฑะ และ กลับเข้าไปเองได้ ซึ่ง ไม่เกิดปัญหา นอกจากความรำคาญ เราพบการเกิดไส้เลื่อน ได้บ่อยขึ้นในคนอายุมากขึ้น พบว่า พบถึง 4 % ในคนอายุ มากกว่า 45 ปี วิธีการรักษาไส้เลื่อน คือ การผ่าตัด ซ่อม ผนังช่องท้องที่หย่อน ปัจจุบัน มีวิวัฒนาการการผ่าตัดไส้เลื่อนที่ทันสมัย และ ปลอดภัย จนถึงขนาด แค่ ฉีดยาชา ก็ผ่าตัดเสร็จ ในเวลา 1 ชั่วโมง
-ไส้เลื่อนนอกจาก เกิดความรำคาญแล้ว หากปล่อยทิ้งไว้ วันร้ายคืนร้าย อาจจะมีภาวะลำไส้อุดตันเกิดขึ้นได้ เพราะ เมื่อลำไส้เคลื่อนที่เข้ามาในถุงไส้เลื่อน แล้ว ไม่ได้กลับเข้าไปในช่องท้อง มีการกดเบียดทำให้การไหลเวียนเลือดกลับได้น้อยลง ลำไส้เริ่มบวม ยิ่งบวม ก็ยิ่งไม่สามารถ กลับเข้าไปได้ การกดเส้นเลือด ก็จะรุนแรงขึ้น จนทำให้ ลำไส้ขาดเลือด และ เกิดภาวะ ลำไส้เน่า ช่องท้องอักเสบ ติดเชื้อในกระแสเลือด และ เสียชีวิต … ตามสถิติพบว่า หากเกิดภาวะ ลำไส้อุดตัน และ รักษาไม่ทัน โอกาสเสียชีวิต สูงถึง 50%
-หากพบว่า เป็นไส้เลื่อน ควรพบศัลยแพทย์ และ นัดหมายเพื่อการผ่าตัด ตั้งแต่ยังไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนนะครับ