กินยารักษาเร็ว อาจไม่ต้อง ผ่าระบายหนอง

-มีโรคหลายอย่าง ที่เกิดจากการอักเสบติดเชื้อที่บริเวณผิวหนัง หากได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ ทันเวลา การอักเสบ อาจจะไม่ลุกลามกลายเป็นฝี หรือ กลัดหนอง เพราะ ถ้าหากทิ้งไว้ให้การอักเสบลุกลามจนเป็น ฝี หรือ หนองแล้ว จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัด เจาะ ระบายหนองออก ไม่เช่นนั้น จะไม่หาย และ เป็นมากขึ้นได้ครับ

ฝีหนอง เกิดจากการสู้กัน ระหว่าง เชื้อโรคกับเซลล์เม็ดเลือดขาวของร่างกาย เมื่อสู้รบกัน ก็มีการตายของเซลล์ในสนามรบ ซึ่ง จะมีซากเซลล์ที่ตาย และมีการดึงให้มีโปรตีน ที่เสียหาย กองอยู่รอบกัน เกิดเป็นหนองสีขาวขึ้น … ในบริเวณที่เป็นหนอง เชื้อโรคจะชอบ เพราะว่า มีอาหารของเชื้อโรค และ เม็ดเลือดขาวเข้าไปไม่ถึง แม้แต่ ยาปฏิชีวนะ ที่เรากินเข้าไป ก็เข้าไปไม่ถึงโพรงหนอง ทำให้ ไม่สามารถกำจัดเชื้อโรคได้ เชื้อโรคอาศัยเป็น ฐาน ในการซ่องสุม เพื่อจำนวน และ ทำอันตรายกับร่างกายของเรา .. ในการรักษาตอนที่เป็นหนองแล้ว จึงต้องทำการเจาะ ระบายหนองออก เพื่อให้มีปริมาณ หนอง และ เชื้อโรคลดน้อยลง จนเพียงพอ ที่เซลล์เม็ดเลือดขาว และ ยาปฏิชีวนะ จะเอาชนะ เขื้อโรคได้… แต่ ถ้าหากการอักเสบ เพิ่งเริ่มต้น มีเพียงเล็กน้อย หากเรากินยาปฏิชีวนะ (ซึ่ง เชื้อโรคส่วนใหญ่มาจากผิวหนัง ยาปฏิชีวนะพื้นๆ กลุ่ม เพนนิซิลิน สามารถฆ่าเชื้อโรคได้) ก็จะทำให้การอักเสบ ลดลง หรือหายไป ไม่เกิดเป็นหนองขึ้น เราก็ไม่ต้องรับการผ่าตัด

-ฝี หรือ การอักเสบ ที่เกิดขึ้นบ่อย เช่น ฝีที่เกิดซ้อนบนต่อมไขมันอุดตัน (Infected sebaceous cyst) ฝีที่บริเวณ รอบ ลานนม (Infected Montgomery gland) และ เล็บขบ (Paronychia) ล้วนแต่ เกิดจากการอักเสบขึ้นน้อยๆ ก่อน จะเริ่ม เจ็บ และ บวมขึ้น อาจจะเริ่มแดง น้อยๆ ช่วงเวลาดังกล่าว หากรีบ กินยาปฏิชีวนะ อาบน้ำ ล้างผิวหนังให้สะอาด การอักเสบก็จะยุบลง ไม่กลายเป็นหนอง ไม่ต้อง เจาะ หรือ ผ่าฝีครับ …

-อย่างไรก็ดี หากการอักเสบ ลดลง ควรกินยาปฏิชีวนะ ให้ครบนะครับ และ ในคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น เบาหวาน หรือ ได้ยาเคมีบำบัด หรือเป็นโรคเลือด ควรได้รับการดูแลใกล้ชิด เป็นพิเศษครับ


กินยารักษาเร็ว อาจไม่ต้อง ผ่าระบายหนอง