–น้ำตาลสูงเกิน 9 ปี อวัยวะเริ่มเสียหาย 14 ปี ตา และ ไต พัง
-มีการศึกษาในหนูทดลอง ทำให้หนูเป็นเบาหวาน และตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของ หนู ในอวัยวะต่างๆ ทั้งระบบประสาท ระบบหัวใจและหลอดเลือด ในจอประสาทตา ระบบไต และ เส้นเลือดขนาดเล็กตามแขนขา รวบรวมการศึกษาหลายแหล่งเป็นบทความในวารสาร Nature เปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ตามอายุของหนู ที่หลังจากทำให้เป็นเบาหวาน… หากเทียบอายุของหนู กับ คน แบบ คร่าวๆ จะพบว่า 2 สัปดาห์ของหนู จะเท่ากับ 1 ปีของคน
-หลังจากที่หนู มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงนาน 18 สัปดาห์ หรือ ประมาณ 9 ปี สำหรับคน จะพบว่าการทำงานของหัวใจต้องทำงานหนักขึ้น จากการตรวจหาสาร BPN(B-Type Natriuretic Peptide) ในเลือดที่สูงขึ้น โดยที่ยังไม่พบการเปลี่ยนแปลงการทำงานจากการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ .. ขณะเดียวกัน ในระบบ ประสาท พบว่า ความสามารถในการเรียนรู้ และ การจดจำลดลง
-เมื่อผ่านไป 20 สัปดาห์ หรือ ประมาณ 10 ปี ในคน เริ่มพบว่า การนำสัญญาณของเส้นประสาทช้าลง และ เกิดการฝ่อ-ตาย ของ เซลล์หุ้มเส้นประสาท(Schwann cell) ที่ช่วยให้การนำสัญญาณประสาทเร็วขึ้น.. มีการฝ่อและตายในเนื้อสมองส่วน Hippocampus ซึ่งเป็นส่วนของความจำ .. เส้นเลือดในกรวยไต มีผนังเส้นเลือดขนาดเล็กหนาตัวขึ้น ทำให้การไหลผ่านของปัสสาวะและของเสียช้าลง ..เกิดการฝ่อตายของกล้ามเนื้อหัวใจ มากขึ้น มีพังผืดในกล้ามเนื้อหัวใจ และ กล้ามเนื้อหัวใจโตขึ้น(เพราะต้องทำงานหนักขึ้น) .. ที่จอประสาทตา เซลล์ส่วนที่เป็นเส้นประสาทรับสัญญาณแสง เริ่ม ฝ่อตาย ทำให้มีความพยายามในการสร้างเส้นเลือดใหม่ มาเลี้ยงจอประสาทตา… จะเห็นว่า มีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายในหลายอวัยวะ ซึ่งล้วนแต่ เป็นการเปลี่ยนแปลงของเส้นเลือด ที่มาเลี้ยง และการทำงานของเซลล์ที่ผิดปกติ
-เมื่อผ่านไป 34 สัปดาห์ หรือ เทียบกับ 14 ปี ในคนที่มีน้ำตาลในเลือดสูงต่อเนื่อง พบว่า ไตวาย คือ เนื้อไตกลายเป็นพังผืด ไม่สามารถทำงาน ในการกรองของเสียออกจากร่างกายได้ ..ในส่วนของจอประสาทตา ก็จะทำงานไม่ได้ เพราะ มีเส้นเลือดงอกใหม่ มาเต็มพื้นที่จอประสาทตา ทำให้ไม่สามารถรับแสง หรือ มองเห็นได้ เกิดการลอกของจอประสาทตา และ พื้นที่การมองเห็นลดลงจนเกือบมองไม่เห็น
-จะเห็นว่า เบาหวาน อันตรายมาก และ ในการเปลี่ยนแปลงเกิดกับทุกอวัยวะ โดยที่การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ไม่มีสัญญาณเตือน ให้เรารู้ได้เลย … ปกติ ร่างกายจะเตือน ด้วยความเจ็บปวด แต่ ในการเปลี่ยนแปลง หรือ การเสื่อมของอวัยวะที่เล่ามาทั้งหมด ไม่มีตรงไหนเลยที่จะส่งสัญญาณความเจ็บปวดให้เราเห็น จึงทำให้คนเป็นเบาหวานส่วนใหญ่ “ตายใจ” ไม่คิดว่าเป็นอันตราย เพราะไม่เห็นความรู้สึกเจ็บปวด และการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด เกิดขึ้นช้าๆ ใช้เวลาเป็นปี แต่จะเห็นว่า เป็นการเปลี่ยนแปลง หรือ เสียหาย ที่ไม่อาจย้อนกลับ ไม่สามารถฟื้นฟูให้กลับดังเดิมได้ ดังนั้น สิ่งที่สำคัญคือ คนที่เริ่มมีน้ำตาลในเลือดสูง จึงควรตระหนักถึงความสำคัญ ของการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ปกติโดยเร็ว และ ต่อเนื่อง ไม่เช่นนั้น ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง จะค่อยๆ ทำลายอวัยวะของร่างกายเราอย่างช้า และ ไม่สามารถฟื้นคืนได้ครับ
Reference: Yiwen Li, et al. Diabetic vascular diseases: molecular mechanisms and therapeutic strategies. Signal Transduction and Targeted Therapy (2023) 8:152