–พระอานนท์ พุทธุปัฏฐาก พระพุทธเจ้า อยู่ 25 ปี และ เป็นผู้ที่ได้รับการยกย่อง ว่า ปฏิบัติหน้าที่ในการถวายการดูแล พระพุทธเจ้า ได้อย่างไม่บกพร่อง … และได้ความดีของท่าน ที่ติดตามพระพุทธเจ้าอย่างใกล้ชิด ทำให้ เป็นผู้รู้ทุกเรื่อง ที่พระพุทธเจ้า ทรงปฏิบัติ จึงได้รับ การขนานนามว่า “พหูสูตร” หรือผู้รวมรู้ … และ ในการสังคยนา พระไตรปิฏก ก็ได้รับเชิญให้เป็นบุคคลสำคัญ ที่ช่วยทบทวน และ สอบทาน คำสอนของพระพุทธเจ้า
-เป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งว่า พระอานนท์ มีเคล็ดลับ อะไร ที่ทำให้ สามารถทำหน้าที่ ในการดูแล เจ้านาย ได้เป็นอย่างดี … หากเราทำได้ เราก็จะสามารถ ทำงาน กับเจ้านายได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
-เรื่อง เล่าว่า ก่อนที่พระอานนท์ จะตอบรับเป็น พระ พุทธุปัฏฐาก ของพระพุทธเจ้า ท่านทูลขอพร ๘ ประการ จากพระพุทธเจ้าว่า
๑. ถ้าจักไม่ประทานจีวรอันประณีตที่พระองค์ได้แล้วแก่ข้าพระองค์
๒. ถ้าจักไม่ประทานบิณฑบาตอันประณีตที่พระองค์ได้แล้วแก่ข้าพระองค์
๓. ถ้าจักไม่โปรดให้ข้าพระองค์อยู่ในที่ประทับของพระองค์
๔. ถ้าจักไม่ทรงพาข้าพระองค์ไปในที่ที่ทรงรับนิมนต์ไว้
๕. ถ้าพระองค์จักไปสู่ที่นิมนต์ที่ข้าพระองค์รับไว้
๖. ถ้าข้าพระองค์จะพาบริษัทซึ่งมาแต่ที่ไกลเพื่อเฝ้าพระองค์ได้ในขณะที่มาแล้ว
๗. ถ้าความสงสัยของข้าพระองค์เกิดขึ้นเมื่อใด ขอให้ได้เข้าเฝ้าทูลถามเมื่อนั้น
๘. ถ้าพระองค์ทรงแสดงธรรมเทศนาอันใดในที่ลับหลังข้าพระองค์จักเสด็จมาตรัสบอกพระธรรมเทศนานั้นแก่ข้าพระองค์อีก
-ทั้ง 8 ข้อนั้น มีวัตถุประสงค์ชัดเจน ดังคำบอกเล่า ของ พระอานนท์ …..ถ้าท่านไม่ทูลขอพรข้อ ๑ – ๔ ก็จักมีคนพูดได้ว่า ท่านรับตำแหน่งพุทธุปัฏฐาก เพื่อหวังลาภสักการะอย่างนั้น ๆ เพื่อป้องกันปรวาทะอย่างนั้น ท่านจึงได้ทูลขอพร ๔ ข้อนี้ ,,,ถ้าท่านไม่ทูลขอพรข้อ ๕ – ๗ ก็จักมีคนพูดได้ว่า พระอานนท์บำรุงพระศาสดาไปทำไม เพราะกิจเท่านี้พระองค์ก็ยังไม่ทรงสงเคราะห์เสียแล้ว…… และหากท่านไม่ทูลขอพรข้อ ๘ เมื่อมีคนมาถามท่านลับหลัง พระพุทธองค์ว่า คาถานี้ สูตรนี้ ชาดกนี้ พระผู้มีพระภาคตรัสที่ไหน? ถ้าท่านตอบเขาไม่ได้ เขาก็จะพูดได้ว่า พระอานนท์เฝ้าติดตามพระผู้มีพระภาคเหมือนเงาตามตัวอยู่เป็นเวลานาน ทำไมเรื่องเท่านี้ยังไม่รู้?
-เราทุกคน สามารถ นำแนวทางนี้ไปใช้ได้นะครับ … การเป็น ลูกน้อง ตามเจ้านาย ที่เก่งๆ ก็จะทำได้ดี และ ทำได้นาน ครับ