-อาการปวดที่ข้อศอก เป็นอาการที่พบได้บ่อย และ ทางแพทย์ ก็มีชื่อเรียกเฉพาะ(เพราะพบบ่อย) คือ Tennis Elbow และ Golf Elbow ซึ่งเป็นอาการปวดที่ ปุ่มกระดูก ด้านข้างของข้อศอก (ตรงกับตำแหน่งข้อพับศอก พอดี) โดยหากหงายมืออก ปุ่มด้านนอกถ้าปวด เรียก Tennis Elbow มักพบในคนตีเทนนิส และ ปุ่มด้านในที่ใกล้ลำตัวมากกว่า เรียก Golf Elbow ซึ่งมักจะพบอาการปวดในคนตีกอล์ฟ
-Tennis Elbow เจอบ่อยกว่า และ ไม่ใช่จะพบเฉพาะในคนตีเทนนิส เวลา ออกแรงทุบของ หรือ งัดข้อมือ บิดมอเตอร์ไซด์ หรือ แม้แต่ในปัจจุบัน คน ถือโทรศัพท์มือถือ พิมพ์ข้อความ ก็เจอได้บ่อยเหมือนกันครับ … ทางการแพทย์ พบว่าตำแหน่งปุ่มกระดูกที่ปวด เป็นตำแหน่งของ จุดเกาะของกล้ามเนื้อท่อนแขนหลายๆมัด ที่ทำหน้าที่ในการกระดกข้อมือขึ้น และ เหยียดนิ้วมือออก ดังนั้น เวลา เกร็งกำมือแน่นๆ และ ได้รับแรงกระแทก กล้ามเนื่อเหล่านี้ จะทำงานหนัก และ ถูก กระชาก เลยทำให้เชื่อว่า เป็นเพราะจุดนั้น เป็นจุดต้องรับแรง ทำให้กล้ามเนื้อ ดึงรั้งและ กระชากที่ปุ่มกระดูก ทำให้ กระดูกอักเสบ และ เกิดความเจ็บปวดขึ้น จึงมีวิธีการรักษาต่างๆ นอกจากการใช้ยาแก้ปวด การประคบร้อน การใช้อัลตราซาวด์นความร้อน เพื่อคลายกล้ามเนื้อ หรือ การใช้ที่รัดแขนใต้ข้อศอก เพื่อผ่อนแรง ล้วนเป็นวิธีการที่ช่วยลดอาการปวด และ ช่วยให้ดีขึ้น แม้แต่การฝังเข็ม เพื่อคลายกล้ามเนื้อ ก็ช่วยได้ … บ่อยครั้งที่ทำวิธีต่างๆ แล้ว ก็ไม่ได้ผล แพทย์บางท่าน ก็แนะนำให้ฉีด Steroid ไปที่ตรงตำแหน่งที่เกิดอาการเจ็บปวด เพื่อลดการอักเสบ ซึ่ง ก็ได้ผล ดีมาก แต่มีข้อเสียคือ 1) ไม่ได้แก้ไขที่ต้นเหตุ และ 2) การฉีด steroid ทำให้เอ็นของกล้ามเนื้อ เปื่อย ฉีกขาดง่าย ซึ่ง อาจจะส่งผลเสียในระยะยาว
-ความยากของเรื่อง คือ บ่อยครั่ง ที่พอใช้วิธีต่างๆ ปกติข้างต้นแล้ว ไม่ได้ผล ก็เกิดอาการจนปัญญา และ โรคก็กลับมาเป็นซ้ำในเวลาอันสั้น … ผม ก็เจอปัญหาเดียวกันครับ … แต่ด้วยความเชื่อว่า อาการปวดต่างๆ ของร่างกาย ต้องมีสาเหตุ และ ส่วนใหญ่ เกิดจากากรทำงานไม่ประสานกัน ไม่สมดุลกันของกล้ามเนื้อ มีกล้ามเนื้อบางชุดที่เกร็งรั้ง หรือ เป็นตะคริว ไม่ยอมคลายตัว ทำให้ เกิดการดึงกันของส่วนต่างๆของร่างกาย ทำให้เกิดการบาดเจ็บ และ เกิดการปวดขึ้น (ตามหลักการที่ผมเขียนไว้ในหนังสือ ฝังเข็มกับดุลยภาพบำบัด)
-ผมมีคนที่มีอาการแบบนี้ เกิดซ้ำหลายครั้ง บางครั้ง ทายา นวดยา ฝังเข็ม ก็ดีขึ้นบ้าง แต่ไม่หาย จนต้องรอให้ร่างกาย รักษาตัวเอง ให้หายไป แต่ก็กลับมาเป็นใหม่บ่อยมาก … จึงได้ลองเปิดตำรา กายวิภาคดู และ น่าสนใจมาก ที่มีกล้ามเนื้อมัดเล็กๆ ชื่อ Anconeus เกาะที่ปุ่มกระดูก (lateral epicondyle) เดียวกับ กล้ามเนื้ออื่นๆ ที่มีอาการของ Tennis Elbow เลย เพียงแต่ว่าเป็นกล้ามเนื้อขนาดเล็ก ซ่อนอยู่ข้างหลัง และ ก็ไม่ได้ทำหน้าที่หลักๆ แพทย์ส่วนใหญ่ จึงไม่รู้จัก และ ไม่ค่อยสนใจกล้ามเนื้อมัดนี้ … อันที่จริงกล้ามเนื้อมัดนี้ มีความสำคัญไม่น้อย คือ เป็นการยึดให้กระดูก ulnar ให้อยู่ในระนาบ และ ให้นิ่ง เพื่อให้เกิดการส่งแรง หรือ ทำงานของนิ้วมือ และ ข้อมือ ให้ได้อย่างดี ไม่สั่น ดังนั้นการทำงาน จึงเกิดขึ้นเกือบตลอดเวลาที่ต้องใช้มือ ซึ่ง ทำงานหนักกว่า กล้ามเนื้อ งอ หรือ กระดกข้อมือเสียอีก แต่ ด้วยระยะทางระหว่าง จุดสั้น จึงใช้กำลังไม่มาก แต่เป็นกล้ามเนื้อที่ต้อง อึด … ด้วยเหตุที่ต้องทำงานตลอด จึงทำให้บางครั้งอาจจะเกิดอาการเกร็ง หรือ เป็นตะคริวได้ และ ถ้าหากเกร็งหรือ เป็นตะคริว จะออกแรกดึงที่ปุ่มกระดูกตลอดเวลา ไม่ว่า จะขยับแขนท่าไหน ก็จะถูกดึงด้วยเสมอ จึงทำให้มีอาการ เหมือน Tennis Elbow แต่ เป็นคนละสาเหตุ กับ การดึงรั้งจาก กล้ามเนื้อกระดกข้อมือ ทำให้ หากไม่ได้รับการวินิจฉัย ก็จะไม่ได้รับการรักษา และ เป็นซ้ำ ไม่หายสักที
-วิธีการวินิจฉัย ว่าสาเหตุอาการของ Tennis Elbow นี้เกิดจาก กล้ามเนื้อ Anconeus หรือไม่ ก็ทำการกดที่กล้ามเนื้อ เพื่อคลายกล้ามเนื้อ และ ขยับแขนดู จะพบว่า อาการปวดที่ตำแหน่งปุ่มกระดูก แบบ Tennis Elbow ดีขึ้น ซึ่ง สามารถใช้การฝังเข็มเข้าช่วยเพื่อคลายกล้ามเนื้อมัดนี้ … คนไข้ที่ผมดูแลอยู่ ก่อนหน้านี้ รักษากันหลายวัน หลายครั้ง ก็ไม่หายสักที …ครั้งหลังสุด ตรวจเจอต้นเหตุ ที่กล้ามเนื้อ Anconeus ฝังเข็มครั้งเดียว วันรุ่งขึ้นหายดีเลยครับ
-มีเรื่องราวเกี่ยวกับ การปวด นอกตำรา อีกหลายอย่าง ซึ่ง ผม ก็เคยแชร์เรื่องของ อาการปวดที่คล้ายปวดเต้านมไปแล้ว … ไว้มีโอกาส จะแชร์เรื่องอื่นให้ทราบกันนะครับ