-“เขาทำแบบนี้กันมาตั้งแต่ในประวัติศาสตร์แล้วครับ พ่อ” … คำตอบจากลูกชาย “เพราะ เบียร์สะอาดกว่าน้ำ”
-จริงเลยครับ เพราะเชื่อว่าในยุคโบราณ เรื่องสุขอนามัยของน้ำดิ่ม น่าจะยังไม่ดี ดื่มน้ำที่คนทั่วไปใช้ดื่ม น่าจะไม่ได้ต้ม หรือไม่สะอาด คนทั่วไปอาจจะไม่มีทุนทรัพย์ หรือ ความสามารถในการได้น้ำสะอาดมาดื่ม ซึ่งอาจจะเป็นต้นเหตุของการเจ็บป่วยต่างๆนาๆ ทั้งเรื่อง อาหารเป็นพิษ ท้องร่วง พยาธิ ไทฟอยด์ และ อื่นๆ ฯลฯ แต่ เบียร์ เป็นน้ำที่ผ่านกระบวนการหมัก และ กลั่น ซึ่งการกลั่น ทำให้มั่นใจได้ว่าน้ำนั้นสะอาดจริง ดังนั้น เบียร์จึงเป็นน้ำดื่ม ที่สะอาด ปลอดจากเชื้อโรค … ในสังคมยุคโบราณ นอกจากเรื่องของรสชาติ และ ความอร่อย ย่อมเชื่อได้ว่า หากดื่มเบียร์ แทนน้ำ น่าจะลดปัญหาการเจ็บป่วยได้ … กำลังพล กำลังทหาร ก็จะไม่ต้องล้มป่วยจากโรคทางเดินอาหาร หรือแม้แต่ ในการรับแขก ก็เลือกเอาของที่ดี มาให้ดื่มกินแล้วปลอดภัย ให้กับ แขกที่มาเยือน ในยุโรป โดยเฉพาะในเยอรมัน จึงมีการดื่มเบียร์แทนน้ำกัน และถือว่าเป็นของดี
-ต้นกำเนิดของเบียร์ไม่ได้อยู่ใน ยุโรปนะครับ แต่ มีมาตั้งแต่ อียิปต์โบราณ และ การถ่ายทอดวัฒนธรรมนี้ จึงเริ่มแพร่เข้ามาในยุโรป โดยผ่านทาง ยุโรปตะวันตก และ ในเยอรมัน มองเห็นว่า เป็นของดี จึงมีการพัฒนา และ ตั้งเป็นกฎหมาย ควบคุมการผลิตเบียร์ที่บริสุทธิ์ ที่เรียกว่า The Purity Law เป็นวิธีควบคุมคุณภาพ ตั้งแต่สมัยโบราณ เหมือน เรามี อย มอก ที่ควบคุมมาตรฐานการผลิต ประมาณนั้น
– หากไม่นับข้อเสีย ในเรื่องของ ความมึนเมา ขาดสติ เบียร์ น่าจะเป็นเครื่องดื่มที่สะอาดถูกหลักอนามัย ตั้งแต่สมัยโบราณ … ซี่งเชื่อว่า วัฒนธรรม การดื่มน้ำชา (ซึ่งชงร้อนๆ) ของจีน และ ญี่ปุ่น ก็เป็นเรื่องในทำนองเดียวกัน ดื่มชาแทนน้ำ เพราะ ว่า ชาสะอาดกว่าน้ำ(ที่ไม่ได้ต้ม)ครับ
-ในยุคปัจจุบัน ซึ่ง เราหาน้ำสะอาดสำหรับดื่มได้ง่าย จึงไม่จำเป็นต้องดื่มเบียร์แทนน้ำนะครับ