หน้าที่ไม่ใช่ Job description

หน้าที่ไม่ใช่ Job description และ หน้าที่ก็ไม่ใช่ Performance agreement … ในยุคที่ศาสตร์ของการบริหาร ถูกมองว่า เป็นทางออก ที่จะทำให้องค์กร มีกำไร เติบโต เจริญขึ้น ได้มีกระบวนการ และ วิธีการต่างๆ มากมาย สอนกันหลายสำนัก บัญญัติกันเป็นทฤษฏีต่างๆ และในแต่ละกระบวนการ ก็เริ่มมีตัววัด และ มีศัพท์แสงมากมายขึ้นมา ให้เรียนก ให้เรียนกัน … และ มีอยู่ยุคหนึ่ง ที่ กำหนดตัววัด ตัวชี้วัดต่างๆ เรียกเป็น KPI (key performance agreement) อะไรๆ ก็ต้องมีตัววัด ซึ่งดีนะครับ การมีตัววัด ก็ช่วยให้เราสามารถนำตัววัดมาเปรียบเทียบกันได้ … การวัดเป็นหนึ่งในกลไก ของธรรมชาติ แม้แต่ในร่างกายมนุษย์ ก็มีการวัดเกิดขึ้น การถูกกระทบกระทั่ง มีการวัดความรู้สึกเจ็บปวด ทำให้เราชักมือ ชักเท้าหนี วัดว่าหนาวเกินไป ก็เข้าหากองไฟหรือความอบอุ่น หาผ้ามาห่ม แม้แต่เมื่อรับรู้ว่า น้ำตาลในเลือดมากเกินไป ก็สั่งให้อินซูลินออกมาทำงาน เพื่อเก็บน้ำตาลส่วนเกินเข้าไว้ในที่สำรอง รอนำออกมาใช้

-การมี KPI หรือ OKR หรือ KRI ล้วนแต่เป็นตัวเลข หรือ ตัววัดที่ถูกกำหนดขึ้น และ บอกว่า ถ้าทำได้ตามตัววัดเหล่านั้น จะเกิดผลดี ..  กระบวนการเหล่านี้ ก็ต้องทำงานโดยคน และ ในส่วนของคน ก็มีการกำหนด กิจกรรมที่ทำ ที่เรียก job description หรือ เครื่องมือ ข้อตกลง กิจกรรมที่ต้องทำ ที่เรียกว่า performance agreement … และในยุคใหม่ของการบริหารยุคใหม่ ที่มีคนอยู่มากมาย ก็มีการทำ JD และ PA รายบุคคล เพราะเชื่อว่า ทำตามนี้ แล้ว ทุกอย่างจะดี จะสำเร็จ… ซึ่ง เมื่อไปถามคนทำงานจริงๆ ก็มีความเห็นต่างๆ กันมากมาย ส่วนหนึ่ง และ ส่วนใหญ่ กลับรู้สึกว่า การเขียนตัวชี้วัดต่างๆ เหล่านี้ ไร้สาระ และ เป็นการเพิ่มงาน หรือ เหนื่อยเปล่า … น่าสนใจว่า ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

-ตัววัดต่างๆ ที่ถูกเขียนขึ้น ถูกกำหนดขึ้น ไม่ได้ดี หรือ มีคุณภาพ เหมือน ตัววัดที่มีอยู่ในธรรมชาติ แบบเดียวกับ การรู้สึกเจ็บ รู้สึกร้อน รู้สึกหิว ฯลฯ จึงไม่ได้มีคุณภาพที่จะมั่นใจว่า ทำตามนั้น จะสำเร็จ … หน้าที่ จึงไม่ใช่ แค่ Job description, หรือ performance agreement … แต่การทำอะไรให้สำเร็จ ยั่งยืน ได้ผล ทุกคนก็ต้องทำตามหน้าที่ ซึ่งหน้าที่นั้น มีรายละเอียด มากกว่า JD และ PA.…. หน้าที่ คือ การรู้ว่า เราเป็นส่วนไหนของสังคม และ องค์กร และ การกระทำของเราจะส่งผลอะไร ต่อ สังคม และ องค์กร เมื่อรู้แล้ว เราก็ทำสิ่งที่ควรจะทำให้ดีที่สุด เพื่อให้เกิดผลดี แก่สังคมและ องค์กร … ความเข้าใจ และ ทำตามหน้าที่ ที่ดี และ ถูกต้อง จะตรงกับ JD และ PA ที่ดี ดังนั้น JD และ PA จึงเป็น ส่วนประกอบส่วนหนึ่ง ของหน้าที่ หรือเป็นคำบรรยาย ส่วนหนึ่งของหน้าที่

-หากเราเขียน JD และ PA ตามใจเรา โดยไม่ได้ตระหนักถึงหน้าที่ และ การเป็นส่วนหนึ่งของสังคม และ องค์กร เราก็จะได้ JD หรือ PA ที่ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ครับ….. คนที่ทำถูกต้องตาม JD และ ทำตรง PA ผ่านการประเมิน อาจจะเหมือนคนที่ ตอกบัตรเข้างาน และ ออก ตรงเวลา ไม่เคยสาย ไม่เคยลา แต่ ไม่ได้ทำงานให้เกิดผล เป็นชิ้นเป็นอัน ก็ได้ครับ … เพราะ ทั้งตัวเอง และ หัวหน้า ก็ไม่เข้าใจว่า องค์กรต้องการให้ทำหน้าที่อะไร ที่จะเกิดประโยชน์ต่อองค์กร

หน้าที่ไม่ใช่ Job description