-เคยสังเกต ไหมว่า เวลาประชุม มักจะต้องมีการเสริฟ อาหารว่าง หรือ เบรค … บางคนอาจจะคิดว่า เป็นการให้พักสมอง บางคนอาจจะคิดว่าให้ไปเข้าห้องน้ำ แต่ในทางการแพทย์ ก็มีหลักความจริงอยู่ครับ
–สมองเรา ถึงแม้จะมีน้ำหนัก เพียง 2% แต่มีภารกิจ และ การทำงานมากมาย เวลาใช้สมอง ใช้ความคิด จะมีการใช้พลังงานมากมาย พบว่าโดยเฉลี่ย สมองจะใช้พลังาน หรือใช้ ออกซิเจนที่ไปกับกระแสเลือดเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงาน มากถึง 20% ของการใช้พลังงานของร่างกาย … ยิ่งเวลาใช้สมอง หรือใช้ความคิด การไหลเวียนของเลือดในสมองจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะมีการใช้พลังงาน … ผมเองเคยทดลองด้วยตนเอง ระหว่าง เดินออกกำลังกายบนลู่วิ่ง ดูชีพจรตนเอง ขณะที่ไม่ได้คิดอะไร เทียบกับเวลาเดินไปด้วย คิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ไปด้วย ปรากฏว่า ชีพจร พี่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่กำลังใช้ความคิด … แสดงว่า การใช้ความคิด หรือ ใช้สมอง ก็ใช้พลังงาน ไม่น้อยไปกว่า การออกแรงทางกายครับ
-ความรู้ทางการแพทย์อีกเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ คือ เซลล์ของร่างกาย 2 ชนิดที่จะต้องใช้พลังงานจากน้ำตาลเท่านั้น คือ สมอง และ เม็ดเลือดแดง ไม่สามารถนำพลังงานจาก โปรตีน หรือ ไขมันมาใช้ได้ ซึ่งพลังงานจากน้ำตาล เมื่อเรากินอาหารเข้าไปจะแปลงสภาพและ สะสมไว้ที่ตับในรูป ไกลโคเจน เมื่อต้องใช้ ก็จะหยิบออกมาใช้เลย แต่ว่า ไกลโคเจนที่เก็บไว้ที่ตับมีไม่มาก เมื่อใช้ไปสักพักจะหมด ต้องไปดึงพลังงานจากแหล่งอื่นมาใช้ ถ้าไกลโคเจนใช้หมด สมองก็ขาดพลังงาน ซึ่ง ระยะเวลาที่ไกลโคเจนในตับ สำรองพลังงานไว้ใช้ จะอยู่ที่ประมาณ 2-3 ชั่วโมง … ตรงนี้ จะเห็นว่า สมองใช้แต่พลังงาน กลูโคส (น้ำตาล) และ มีแหล่งที่ได้จากการกินน้ำตาลตรงๆ หรือ ที่สะสมในตับ ซึ่ง พอใช้ประมาณ 2 ชั่วโมง เมื่อน้ำตาลหมด สมองก็ไม่มีพลังงาน นั่งประชุมไปสักพัก ใช้พลังงานไปอย่างมากในการคิด ตามการประชุม น้ำตาลในเลือด และที่ดึงออกมาจากตับก็ใช้หมดไป คิดอะไรไม่ออก … ต้องเติมน้ำตาลจากการกินเข้าไปครับ
-นี่คือเหตุ ที่ต้องมี อาหารว่าง หรือ อาหารเบรค ระหว่างการประชุม .. และ ก็ไม่ต้องไปต่อว่า คนจัดอาหารนะครับ ว่าทำไมเลือก อาหารที่หวาน มีน้ำตาล เพราะ เขาทำถูกแล้วครับ เป็นการเติมพลังงานให้กับสมองตรงๆ … เพียงแต่ ไม่ต้องเติมมากเกินไป ครับ เพราะ อีกสักพัก ก็ถึงมื้ออาหารแล้วครับ