–ต้อกระจก(cataract) เป็นการเสื่อมตามวัยของ เลนส์ลูกตา เลนส์ตาซึ่งเป็นส่วนหักเหแสงให้เรามองเห็นภาพต่างๆชัดเจน เป็น โปรตีนแบบหนึ่ง ซึ่ง เมื่อใช้งานไป ถูกกระทบด้วยแสงและ สารเคมีต่างๆ ก็ย่อมมีเสื่อมเป็นธรรมดา ทำให้เลนส์ขุ่น และ แสงผ่านไม่ได้ … ต้อกระจก จะค่อยๆเป็นเพิ่มขึ้นใช้เวลาเป็นปี … เมื่อทิ้งไว้นานเกินไป จอประสาทตาจะเสื่อมเร็วขึ้น จนมองไม่เห็น ณ ตอนนั้น ถึงจะผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ รักษาต้อกระจก การมองเห็นก็ไม่กลับคืน เกิดภาวะตาบอดถาวร ….ต้อกระจกจะพบมากขึ้นในผู้สูงอายุ ตามวัย เริ่มพบได้ 5% ในวัย 50 และ สูงขึ้นถึง 70% เมื่ออายุเกิน 80
-อาการที่พบ คือ มองภาพไม่ค่อยชัด วัดสายตา ตัดแว่นแล้วก็ยังไม่ชัด เพราะ เหมือนมีอะไรมาบังตรงกลาง ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็เหมือนมีอะไรมาบังอยู่ ในช่วงแรกๆ เลนส์ตาจะเริ่มขุ่น จากตรงกลาง และ ค่อยๆขยายวงกว้างขึ้น อาจจะใช้เวลาแรมปี กว่าจะขุ่นจนมองไม่เห็นเลย (กว่าต้อกระจกจะสุก)
-ปัจจุบันการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์เพื่อรักษาต้อกระจกไม่ได้ยุ่งยากใช้เวลาผ่าตัดประมาณ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ด้วยการฉีดยาชา จึงทำได้รวดเร็ว และ สามารถทำได้ในหลากหลายสถานที่ ทำให้ โรคต้อกระจก เป็นโรคที่รักษาได้ไม่ยุ่งยาก
-ในระหว่างที่ยังไม่ได้ผ่าตัด หากใส่แว่นตาสีดำ หรือ กรองแสง จะช่วยให้รูม่านตาขยายตัว (รูม่านตาจะหดตัวเมื่อแสงมาก และ ขยายตัวเมื่อแสงน้อย) เมื่อรูม่านตาขยายตัว บริเวณที่มองเห็นจะกว้างขึ้นกว่าเดิม ทำให้มองเห็นส่วนที่ไม่โดนต้อกระจกบังไว้(ตรงกลาง)เยอะขึ้นครับ คือเห็นภาพด้านข้างโดยรอบเยอะขึ้น …..ใช่ช่วงแรกหากเป็นไม่มาก หากรีบผ่าตัดก็อาจจะไม่คุ้ม แต่เมื่อติดตามแล้ว ต้อกระจกเป็นมากขึ้น ก็ต้องรักษาด้วยการผ่าตัดครับ
-ในคนมีอายุ ควรตรวจตาเป็นประจำ และหากมีอาการมองไม่ชัด ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อวางแผนการรักษา เพราะ ต้อกระจกรักษาได้ครับ