-บางทีเราก็ซื้อน้ำแข็งหลอดตามร้านสะดวกซื้อมารับประทาน แต่เราก็เห็นคนชอบซื้อน้ำแข็งหลอดบางยี่ห้อทั้งที่ราคาแพงกว่า … พอถามถึงเหตุผล ก็ได้รับคำบอกว่า ที่ซื้อเพราะว่าละลายช้ากว่า และดูเหมือน รสชาติดีกว่า .. เป็นไปได้หรือครับ ที่น้ำแข็งเหมือนกัน ละลายเร็วช้าต่างกัน
-ปกติน้ำแข็งที่ก้อนใหญ่กว่า จะละลายช้ากว่าครับ เพราะ การละลาย เกิดจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของก้อนน้ำแข็ง โดยมีการรับความร้อนจากภายนอกผ่านพื้นผิว ดังนั้นถ้าสัดส่วนของ ปริมาตร/พื้นผิวมากกว่า จะละลายช้ากว่า
-อีกหนึ่งปัจจัย ที่ ทำให้น้ำแข็งลาลายช้า ขึ้นอยู่กับ ขณะที่น้ำเย็นจับตัวเป็นน้ำแข็ง จะมีการเกาะตัวกันเป็นผลึก หากในน้ำแข็งนั้น มีการเข็งตัวไม่พร้อมกัน คือ บางส่วนแข็งก่อน ส่วนอื่นแข็งทีหลัง จะเกิดฟองอากาศขึ้น …ทำให้ ผลึกน้ำแข็งไม่จับตัวกันแน่น ไม่เป็นระเบียบ จึงละลายง่ายกว่า หรือ ถ้ามีอณูของสารแขวนลอย อยู่ด้านในก็ทำให้น้ำแข็งจับตัวกันไม่แน่น จะละลายหรือแตกตัวง่ายกว่า วิธีการดู ก็คือ น้ำแข็งที่มีฟองอากาศ หรือสารแขวนลอย จะมีลักษณะขุ่นกว่า … น้ำแข็งที่ไสปิ๊ง จะละลายช้ากว่าครับ
-แล้วทำยังไง ให้น้ำแข็งจับตัวกันแน่น เพื่อให้ละลายช้ากว่า .. พบว่า หากทำให้น้ำแข็งไม่เย็นลงอย่างรวดเร็ว คือ ให้มีอุณหภูมิ คงที่อยู่ที่ 0 ถึง – 1 องศาเซลเซียส ตลอดเวลา น้ำแข็งก็จะจับตัวกันแน่น เป็นระเบียบ เป็นน้ำแข็งที่ใส ละลายข้า แต่การทำน้ำแข็งในช่องแข็งของเราส่วนใหญ่ จะมีอุณหภูมิ ในช่องแข็ง ต่ำได้ถึง – 30 องศา เซลเซียส จึงทำให้น้ำเย็นด้านขอบเป็นน้ำแข็งก่อน แล้วตรงกลางเป็นน้ำแข็งข้ากว่า น้ำแข็งจะมีลักษณะขุ่นครับ
-น้ำแข็งยี่ห้อที่ละลายช้า จึงมีต้นทุนในการผลิต มากกว่า เพราะ ต้องทำให้น้ำสะอาด มีสารแขวนลอย น้อยๆ (ใช้น้ำกรองละเอียด) และ มีเครื่องมือ ควบคุมอุณหภูมิ ให้การทำน้ำแข็งคงที่ ที่ 0 ถึง – 1 องศาเซลเซียส … เลือกซื้อน้ำแข็งที่ ก้อนใหญ่ และ ใสมากๆ ก็คุ้มค่านะครับ
ปล : อธิบายเรื่อง น้ำแข็งก้อนใหญ่ละลายช้ากว่า ดังนี้ ซึ่งถ้าคำนวณ ค่า โดยให้น้ำแข็งมีลักษณะเป็นรูปลูกเต๋า จะมีปริมาตร กว้าง x ยาว x สูง = X3 ขณะที่ ขณะที่พื้นที่ผิว กว้าง x ยาว x 6 ด้าน = X2 x 6 ดังนั้น สัดส่วนของ ปริมาตร ต่อพื้นผิว จึงเท่ากับ X3 / (X2 x 6) = X / 6 ดังนั้น ก้อนน้ำแข็งที่ใหญ่ขึ้น ก็จะมีสัดส่วนของการละลายยากขึ้น ละลายได้ช้าลง