–หลายคนมักจะคิดว่า การที่หมอจะรู้ว่าเราเป็นโรคอะไร ต้องเจาะเลือดตรวจ ต้อง เอกซเรย์ CT MRI ก่อนเสมอ …ซึ่งไม่จริงครับ
-คำถามนี้ คล้ายๆกับทางตำรวจครับ เวลาตำรวจบอกว่าใครเป็นผู้ร้าย ใครฆ่าคนตาย หรือ ทำร้ายคนอื่น ส่วนใหญ่ เราได้รู้อยู่แล้วว่าใครเป็นผู้ร้าย จาก พยานแวดล้อม มีคนนับสิบคน เห็นคนทะเลาะกัน และ ชกต่อย ทุบตีกัน หรือมีการยิงกัน และ มีคนบาดเจ็บ เสียชีวิต … ตำรวจ ส่วนใหญ่แล้ว สามารถบอกได้ตั้งแต่ต้นแล้วว่า มีใครเป็นผู้ร้าย ใครได้รับบาดเจ็บ .. แต่สิ่งที่ตำรวจใช้เป็นเครื่องมือ สำหรับนำไปดำเนินคดี คือ ลายนิ้วมื้อ คราบเขม่าดินปืน หัวกระสุน ภาพจากกล้องวงจรปิด และสุดท้ายต้องมี การทำภาพประกอบการรับสารภาพ เพื่อประกอบคดี
-ทางการแพทย์ก็คล้ายๆกันครับ .. การเจ็บป่วยส่วนใหญ่ แพทย์สามารถ วินิจฉัยอาการ ได้จากการ ซักประวัติ และตรวจร่างกาย (คล้ายๆกับที่ตำรวจสอบถามจากพยานแวดล้อม) โรคที่ไม่ซับซ้อนและหายเองได้ แพทย์ก็สั่งจ่ายยาตามอาการ และ รอให้ร่างกายฟื้นตัว (เหมือนที่ตำรวจ ไกล่เกลี่ย ยอมความ หรือ จับ ปรับ ตามที่กฎหมายกำหนด และปิดคดีไป)
-ในทางการแพทย์ หากสงสัยว่าผู้ป่วย เป็นโรคอะไรแล้ว ก็มักจะมีความมั่นใจ ประมาณ 80-90% แต่เพื่อให้การวินิจฉัยที่ถูกต้องและตรงจุด ก็อาจจะต้องมีการตรวจเลือด เอกซเรย์ หรือ เพาะเชื้อโรคจากสิ่งที่พบในร่างกาย (คล้ายๆกับตำรวจ เก็บลายนิ้วมือ ดูกล้องวงจรปิด และ นำหัวกระสุนไปพิสูจน์ว่าออกจาก ปืนกระบอกไหน) เป็นการเพิ่มความมั่นใจ ว่า ไม่รักษาผิดโรค (หรือ จับผู้ร้ายผิดคน) .. ดังนั้น โรคส่วนใหญ่ ไม่ได้ถูกวินิจฉัยด้วยการตรวจเลือด และ เอกซเรย์ครับ … เพียงแต่ หมอใช้การตรวจต่างๆ เพื่อยืนยันสิ่งที่หมอคิด ก่อนจะทำการรักษา (เหมือนตำรวจรวบรวมพยาน ก่อนส่งฟ้อง)
-หลายครั้ง โรคที่เกิดขึ้นอาจจะไม่แน่ชัด เพราะ ได้รับการรักษา หรือ ถูกเปลี่ยนแปลงตามเวลา ทำให้การวินิจฉัยยากขึ้น (เหมือนกับคดี ที่อาจจะมีการรบกวนพยาน หรือ ทำลายหลักฐาน หรือ เกิดเหตุมานานแล้ว วัตถุพยาน อาจจะหายไป) หมออาจจะต้องใช้เวลา ในการพิสูจน์โรคนานหน่อย จึงต้องมีการใช้เครื่องมือต่างๆ ช่วยมากหน่อย
-บางครั้งรู้อยู่แล้ว ว่าเป็นโรคอะไร แต่ เวลาทำการรักษา อาจจะจำเป็นต้องการข้อมูลที่ละเอียดขึ้น เพื่อรักษาให้ถูกจุด เช่น เวลาจะผ่าตัด จะได้ตัดให้ถูกที่ ไม่ตัดมากไป หรือ น้อยไป (ตรงนี้ก็เหมือนตำรวจที่จะต้อง หาพยานทาง นิติวิทยาศาสตร์ เพื่อดูว่า จะฟ้องกระทงไหน ข้อหาไหน ฟ้องให้ครบ แต่ ไม่เกินเลย และ ยกฟ้องให้กับคนที่ไม่ได้ผิดจริง)
-น่าจะชัดเจนนะครับ .. ที่ต้องฝาก คุณหมอๆ อีกเรื่อง คือ การบันทึกเวชระเบียน ในประเด็นที่สำคัญ เพราะ หลายครั้ง เราไม่ใช่คนที่รักษาคนไข้เพียงคนเดียว อาจจะต้องมีการส่งต่อ หรือ โรคอาจจะต้องรักษากันนาน มีหมอท่านอื่นมาดูแล กรณีที่เราไม่อยู่ ย้าย ไปทำงานที่อื่น จะได้มีข้อมูลที่ถูกต้องไว้สอบทาน (เหมือนการทำสำนวนคดี และ การถ่ายภาพประกอบการรับสารภาพ เพราะ มีคนหลายคนที่ต้องใช้ข้อมูลนี้ในการทำงานต่อครับ)