-เรามักจะเห็นคนชอบดื่มน้ำเย็น น้ำแข็ง กาแฟเย็น ชาเย็น … มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์การแพทย์เกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ
-มีการศึกษาใน คนหนุ่มสาว 13 คนและ คนสูงอายุ 9 คน ให้ดื่มน้ำเปล่าอุณหภูมิห้อง ดื่มน้ำเย็น 4 องศาเซลเซียส และ น้ำเย็นอัดลม 4 องศาเซลเซียส จำนวน 200 ml. (เกือบ 1 แก้ว) แล้วทำการวัดชีพจร ความดันโลหิต และ อุณหภูมิของร่างกาย เพื่อดูการตอบสนอง ว่ามีความแตกต่างกันหรือไม่ .. พบว่า อุณหภูมิของร่างกายของคนที่ดื่มน้ำเย็น ลดลง มากกว่า คนที่ดื่มน้ำเปล่าที่อุณหภูมิห้อง และ กลุ่มที่ดื่มน้ำเย็นอัดลม มีอุณหภูมิมากที่สุด แต่ก็ใกล้เคียงกับกลุ่มที่ดื่มน้ำเย็นเฉยๆ …นอกจากนี้ ในกลุ่มที่ดื่มน้ำเย็นยังพบว่า ชีพจรเต้นช้าลง ขณะที่ความดันโลหิตโดยรวมทั่ง ค่า systolic และ diastolic สูงขึ้นเล็กน้อย ซึ่ง ข้อมูลทั้ง 3 ส่วนนี้ แสดงให้เห็นว่า ร่างกายของเรา ระบบประสาทอัตโนมัติปรับตัวตอบสนองต่อ น้ำเย็นที่ดื่มเข้าไป ทำให้รู้สึกสบายขึ้น รู้สึกผ่อนคลาย ด้วยการปรับอุณหภูมิ ให้ลดลง ชีพจรช้าลง ขณะเดียวกัน การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะ ความดันโลหิต โดยรวมเพิ่มขึ้น (เลือดไม่ไปคั่งยังส่วนต่างๆของร่างกาย สามารถ กลับเข้าระบบไหลเวียนมากขึ้น)
–กลไกที่เกิดขึ้น มากกว่า แค่ น้ำเย็น ไปดูดเอาความร้อนออกจากร่างกาย เพราะ ว่า ปริมาณ น้ำเย็น แค่ 200 ml จะดูดความร้อนออกจากร่างกายได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น … แต่ อธิบายเรื่อง นี้ จาก กลไกทางสมอง เพราะ ว่า การรับรู้ความรู้สึกถึงความเย็นของ เยื่อบุช่องปาก ลิ้น จนถึงลำคอ อาศัย การส่งสัยญาณ ขาเข้า จากเส็นประสาทสมอง คู่ที่ 5 และ คู่ที่ 9 ซึ่ง ทั้ง 2 ส่วน จะส่งข้อมูลเข้าไปยังสมอง ส่วนที่เรียกว่า Pons ซึ่ง เป็น บริเวณเดียวกับ ประสาทอัตโนมัติ ที่ควบคุม อุณหภูมิของร่างกาย .. สัญญาณที่ถูกส่งเข้าไปถึงคว่ามเย็น ที่ผ่านเข้าไปในช่องปาก หรือ กระพุ้งแก้ม จึวทำให้สมองรับรู้ถึงความเย็น และ สัญญาณว่า กำลังได้รับ น้ำ ซึ่งเป็นน้ำเย็น ได้อย่างรวดเร็ว .. ผลการศึกษานี้ จะเห็นว่า ผลที่เกิดขึ้นเร็วมาก ใน 10 และ 20 นาที เท่านั้น และ ปฏิกิริยาทีเกิด ไม่เป็นเฉพาะอุณหภูมิของร่างกายที่ลดลงเท่านั้น ยังรวมถึง ชีพจรที่ช้าลง ผ่อนคลายมากขึ้นด้วยครับ
ข้อมูลอ้างอิง : https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC8793880/
Link สำหรับผู้ที่ ไม่ได้ใช้ Facebook : https://kmbydradune.com/?p=2081