ความเชื่อเรื่อง กินแคลเซียมแล้วเป็นนิ่วไต ไม่จริง

นิ่วไตเป็นนิ่วหินปูน หรือ นิ่วแคลเซียม เป็นส่วนใหญ่… พอเห็นนิ่วที่หลุดออกมา จะมีลักษณะทรายๆ เหมือน หินปูน หรือ แคลเซียม  … คนที่เคยเป็นนิ่วไต นิ่วท่อปัสสาวะ หรือ นิ่วในทางเดินปัสสาวะ จะรู้สึก และ จดจำได้ถึงความเจ็บปวดจากภาวะนิ่วได้อย่างดี เรียกว่า ปวดมาก ถึงมากที่สุด ปวดจนไม่รู้ว่าจะทำท่าไหนดี ไม่ว่าจะอยู่นิ่ง หรือ ชยับ ก็ไม่หายปวด …. ดังนั้น คนที่เคยเป็นนิ่ว จึงไม่อยากเป็นนิ่วซ้ำอีกครับ

-เราพบว่า นิ่งไต เป็นนิ่วหินปูน เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีองค์ประกอบของ แคลเซียมออกซาเลท (Calcium Oxalate) ทำให้ ในอดีต มีความเชื่อ และ มีคำแนะนำว่า คนที่เป็นนิ่ว หรือ อยากลดความเสี่ยงของการเป็นนิ่ว ใช้ พยายามลดการกินอาหารประเภท แคลเซียม เพื่อที่จะได้ไม่มีแคลเซียมออกมาในปัสสาวะ จะได้ไม่เป็นนิ่ว .. แต่ความรู้ทางการแพทย์ปัจจุบัน พบว่า ความเชื่อดังกล่าวไม่เป็นความจริงครับ

-ในปี 1993 ได้มีการตีพิมพ์การศึกษา เปรียบเทียบ การกินอาหารที่มีแคลเซียม กับ อัตราการเกิดนิ่วไต ในประชากร 45,619 ราย โดยเปรียบเทียบ อัตราการเกิดนิ่วไต เทียบกับคนที่กินแคลเซียมน้อยที่สุด .. พบว่า ผลการศึกษา ตรงข้ามกับความเชื่อเดิมๆ ว่า การกินแคลเซียมทำให้เป็นินิ่วไตเพิ่มขึ้น ในการศึกษานี้ กลับพบว่าลุ่มคนที่กินอาหารที่มี แคลเซียมมาก กลับพบอัตราการเป็นนิ่วไต น้อยกว่า คนที่ไม่ได้กินอาหารที่มีแคลเซียม ถึงเกือบครึ่งหนึ่ง  … จึงทำให้มีการศึกษากลไกทางสรีรวิทยา เพื่ออธิบายปรากฏการณ์ดังกล่าว

-เราพบว่า การจับตัวกันเป็นนิ่ว ไต จะต้องมีทั้งแคลเซียมปริมมาณมาก และ ออกซาเลท ปริมาณมาก ออกมาเจอกันในปัสสาวะ จึงเกิดการจับตัวกันและตกตะกอน … เพราะ แคลเซียม ชอบจับตัวกับ ออกซาเลท … ดังนั้น หากมีการกินอาหารที่มีแคลเซียมสูง แคลเซียมจะจับตัวกับ ออกซาเลท ตั้งแต่ในทางเดินอาหาร ทำให้ มีการดูดซึมออกซาเลท น้อยลงกว่า เดิม เมื่อมี ออกซาเลท เข้าสู่ร่างกายน้อย การขับส่วนเกินก็ออกน้อยไปด้วย จึงทำให้ พบ ออกซาเลท ในปัสสาวะ น้อยลงตามไปด้วย … ส่วน ปริมาณ การขับเคลเซียม ออกทางปัสสาวะ ไม่ได้ขึ้นกับ ปริมาณแคลเซียมที่กิน เพราะ แคลเซียมที่กิน จะถูกนำไปเก็บที่กระดูกเกือบทั้งหมด ส่วนจะมีแคลเซียมในกระแสเลือดมากน้อยแค่ไหน หรือ ขับออกทางปัสสาวะมากน้อยแค่ไหน อยู่ภายใต้การควบคุมของต่อม พาราไทรอยด์ ดังนั้น หาก ต่อม พาราไทรอยด์ ทำงานได้ปกติ ไม่ว่าจะกินแคลเซียมเข้าไปมากแค่ไหน ก็มีแคลเซียมออกมาทางปัสสาวะ มากเท่าเดิม ไม่มากขึ้นตามปริมาณแคลเซียมที่กินเข้าไป

-พอเห็นอย่างนี้ ก็เข้าใจได้เลยนะครับ แคลเซียมในปัสสาวะคงที่เสมอ ดังนั้น จะเกิดนิ่ว ก็ต่อเมื่อ ออกซาเลท ในปัสสาวะเพิ่มขึ้น … ดังนั้น วิธีการลดความเสี่ยงในการเกิดนิ่วไต หรือ นิ่วทางเดินปัสสาวะ คือ การลดปริมาณ ออกซาเลท ซึ่งสามารถลดได้ โดยเลือกกินอาหารที่มีออกซาเลทน้อย และ กินอาหารที่มี แคลเซียมมาก (เพราะจะได้ไปจับออกซาเลทให้ตกตะกอนตั้งแต่ในทางเดินอาหาร ไม่ถูกดูดซึมเข้าไปในร่างกาย)

-อาหารที่มี ออกซาเลท มาก ได้แก่ ผักโชม บล็อกคารี่ มันฝรั่ง อัลมอนด์ ฯลฯ ก็เลือกกินแต่พอดี … และ กินแคลเซียมได้นะครับ ไม่เพิ่มความเสี่ยงให้กับการเป็นนิ่วไต หรือ นิ่วทางเดินปัสสาวะครับ

 


ความเชื่อเรื่อง กินแคลเซียมแล้วเป็นนิ่วไต  ไม่จริง